ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สุขภาพจะดี ... ถ้าท่านเลือกทานแต่อาหารไขมันต่ำ

สุขภาพจะดี ... ถ้าท่านเลือกทานแต่อาหารไขมันต่ำ แต่ทว่า แบบไหนจะดีล่ะ !!




สืบเนื่องจากเอ็นทรี่ที่แล้ว  "มาฉุกคิดกันสักนิด !!  ถ้าท่านอยากมีสุขภาพดี  ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่ข้าว
รับประทานก่อน"   มาเอ็นทรี่นี้ต่อเนื่อง  "สุขภาพจะดี ... ถ้าท่านเลือกทานแต่อาหารไขมันต่ำ  แต่ทว่า
แบบไหนจะดีล่ะ !!"  

การรับประทานอาหารตามใจปาก โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันมาก  นอกจาก จะได้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
แล้ว  ระดับไขมันในเลือดก็จะสูงตามไปด้วย  ถึงแม้บางท่านจะเป็นคนผอมก็ตามที   ฉะนั้น ทางที่ดี
จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำเป็นหลัก   

*+*+*

ไขมัน เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคอะไรบ้าง

การรับประทานอาหารไขมันมากเกินไป  ทำให้อ้วนอุ้ยอ้าย  ร่างกายไร้ความกระฉับกระเฉง
และเป็นต้นเหตุก่อให้เกิดโรคอีกมากมาย  (แม้จะไม่อ้วน  แต่ถ้ามีไขมันในเลือดสูง  ก็มีความเสี่ยง
เช่นกัน)  ที่สำคัญ เช่น

โรคอ้วน   

เมื่อรับประทานไขมันมาก  น้ำหนักก็ย่อมมากตามไปด้วยเป็นธรรมดา  ได้รูปร่างอ้วนอวบกลม ไม่พึง
ประสงค์ทั้งหญิงและชาย  และเป็นสาเหตุหลักที่นำโรคอื่น ๆ มาให้  เช่น  โรคหัวใจ  ความดันโลหิตสูง
เบาหวาน  โรคข้อ  เป็นต้น

โรคหัวใจ

โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจตีบ  ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในปัจจุบัน   การรับประทานอาหาร
ที่มีไขมันมาก จะทำให้ไขมันในเลือดสูง  และจะเกาะติดอยู่ในหลอดเลือดทำให้ตีบลงเรื่อย ๆ  และ
นำมาซึ่งหัวใจวาย  หรืออัมพฤกษ์  หรืออัมพาต

ความดันโลหิตสูง

การที่มีแรงผลักดันผนังเส้นเลือดในร่างกายมากว่าที่ควร  หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น  จนเส้นเลือดเสียหาย
เกิดโรคหัวใจ  เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ  และโรคไต   น้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะทำให้ความดันโลหิต
สูงขึ้นด้วย   ถ้าลดอาหารไขมันลง  น้ำหนักลดลง  ก็จะทำให้ความดันโลหิตต่ำลงได้  


โรคมะเร็ง

เกิดจากเซลล์ของร่างกายเพิ่มจำนวนขึ้นโดยไม่มีการควบคุม   อาหารที่มีไขมันสูงเป็นปัจจัยสนับสนุน
ให้เกิดมะเร็งบางชนิดที่สำคัญ  เช่น  มะเร็งลำไส้ใหญ่  มะเร็งต่อมลูกหมาก  และมะเร็งเต้านม

โรคเบาหวาน

ทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ตามปกติ  ผู้ที่เป็นเบาหวานนอกเหนือจากพันธุกรรมแล้ว  คนที่มี
น้ำหนักตัวมาก  มีโอกาสเป็นเบาหวานมากกว่าคนน้ำหนักปกติ  เบาหวานยังนำภาวะแทรกซ้อน  ที่ไม่
พึงประสงค์มาให้ด้วย  เช่น  ตาบอด  และโรคไต

*+*+*

มาทดสอบกันก่อนว่า  คุณเป็นนักสะสมไขมันในเลือดหรือไม่

๑.  เวลารับประทานสลัด คุณชอบราดน้ำสลัดจนชุ่มเสมอ
๒.  อาหารจานโปรด ส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภททอด
๓.  รับประทานอาหารและขนม ที่ปรุงด้วย นม เนย กะทิ และน้ำมัน ทุกมื้อ
๔.  อาหารว่าง ส่วนใหญ่เป็น มันฝรั่งทอด คุกกี้ และช็อกโกแลตของโปรด
๕.  รับประทาน ไส้กรอก ขาหมู เครื่องในสัตว์ มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง
๖.  เวลาสั่งพิซซ่า มักจะสั่งเพิ่มชีสด้วยเสมอ
๗.  รับประทานอาหารจานด่วน  พวกแฮมเบอร์เกอร์ มากกว่า ๒ ครั้งใน ๑ สัปดาห์
๘.  เลือก ขนมหวาน  หม้อแกง สังขยา หรือไอศกรีม แทนผลไม้หลังอาหาร
๙.  อาหารเช้า นิยม ไข่ดาว เบคอน หรือปาท๋องโก๋ เป็นประจำ
๑๐.  ชอบเนื้อสัตว์ชนิดติดมัน
๑๑.  ดื่มนมไขมันเต็มรูปเสมอ
๑๒.  ไม่สนใจอ่านฉลากส่วนประกอบอาหาร ที่ซื้อมารับประทานเลย

ยิ่งคุณมีนิสัยตรงกับรายการข้างต้นมากเพียงใด  คุณก็เป็นยอดนักสะสมไขมันมากขึ้นเท่านั้น

อาหารที่มีไขมันสูง  ส่วนใหญ่อยู่ในอาหารทอดทั้งหลาย  หรืออาหารที่มีส่วนผสมของเนยแข็ง  ครีม
เนย เนยเทียม และช็อกโกแลต  อาหารกระป๋องที่แช่น้ำมัน  อาหารที่โฆษณาว่าเป็นอาหารสุขภาพ
บางชนิด  เช่น  อาหารเสริมพลังงาน ก็ล้วนแต่มีไขมันสูงทั้งสิ้น

*+*+*

อาหารที่มีไขมันต่ำ



อาหารที่มีไขมันต่ำ  เช่น  พวกผักสด  ผลไม้  ปลา  เนื้อเป็ด เนื้อไก่ ที่เลาะหนังออกแล้ว  เนื้อสัตว์ที่
เลาะมันออกแล้ว 

อาหารที่ผ่านขบวนการปรุงและถนอมอาหารมากเท่าใด  ก็ยิ่งมีปริมาณไขมันมากขึ้นเท่านั้น  จึงควร
รับประทานอาหารกระป๋องหรืออาหารสำเร็จรูปให้น้อยลง   ถ้าจำเป็นต้องใช้อาหารสำเร็จรูป  ควรอ่าน
ฉลากก่อน และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันต่ำ

อาหารที่ปรุงโดยวิธีการนึ่ง หรือต้ม  จะมีไขมันต่ำกว่าทอด   รับประทานผักสด หรือผักลวก ดีกว่าผัดผัก
เช่นเดียวกับน้ำพริกก็จะมีไขมันต่ำกว่าแกง  เป็นต้น




เคล็ดลับอาหารไขมันต่ำ

* อาหารที่ปรุงโดยวิธีการนึ่ง อบ หรือต้ม  จะมีไขมันต่ำกว่าทอด
* รับประทานผักสด หรือผักลวก ดีกว่าผัดผัก
* น้ำพริก มีไขมันต่ำกว่าแกง หรือผัดเผ็ดกะทิ
* ถ้าต้องการน้ำมัน  ให้ใช้กระบอกฉีดน้ำมันเป็นสเปรย์เพียงเล็กน้อย
* หลังปรุงอาหารที่มีน้ำมัน หรือไขมัน  เสร็จแล้วใช้ช้อนตักมันที่ลอยหน้าออกทุกครั้ง
* เมื่อต้องใช้ไข่  พยายามเลือกใช้แต่ไข่ขาว
* เลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ  เนื้อวัวเลือกเนื้อสะโพก  เนื้อหมูบริเวณหลัง  เนื้อแกะเลือกส่วนขา
   เนื้อไก่เลาะหนัง  ส่วนเนื้อที่มาจากต่างประเทศ  ให้เลือกชนิดที่เขียนว่า "SELECT" ซึ่งจะมีไขมันต่ำ
   กว่าที่เขียนว่า  "CHOICE"  หรือ "PRIME"
* เลือกรับประทานเนื้อปลาแทนจะดี  เพราะไขมันในปลา ช่วยลดโคเลสเตอรอลได้

*+*+*  


อาหารไขมันต่ำ แบบไทย

อาหารไทยส่วนมากตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว  เป็นอาหารไขมันต่ำ แทบทั้งสิ้น  ถ้าจะมีอาหารไขมันสูง  ก็มัก
จะมีผักต่าง ๆ ที่ช่วยลดไขมัน ใส่ลงไปด้วย   เช่น  มะเขือพวง  มะเขือเปราะ  หอม  กระเทียม  ข่า ตะไคร้
มะกรูด พริก กระชาย  แตงกวา  เป็นต้น  แล้วรับประทานกับข้าวซ้อมมือ ซึ่งมีใยอาหารสูง  เป็นภูมิปัญญา
ของบรรพบุรุษของไทย โดยแท้

อาหารประเภทมังสวิรัติ  อาหารจานปลา  ผักสด  ถั่วต่าง ๆ   ผลไม้  รวมทั้งน้ำผลไม้   ก็เป็นอาหารไขมัน
ต่ำอยู่แล้ว   จะยกเว้นก็เพียง  อาหารประเภททอด ผัด  กะทิ  นม  เนย  ของหวานบางอย่างที่หวานมาก
เท่านั้น   (ควรรับประทานน้ำตาลแต่น้อย  หลีกเลี่ยงน้ำตาลทรายขาว โดยใช้น้ำตาลทรายแดงแทน) 

อาหารไทย ส่วนมากจะมีสารอาหารที่ครบถ้วน และมีใยอาหารด้วย

ลองดูอาหารไขมันต่ำที่ขึ้นชื่อของโลกดูบ้าง
และอ่านเพิ่มเติมได้จาก  http://healthandcuisine.com/health.aspx?cId=7&aId=601
ขอขอบคุณ

*+*+*
   
อาหารไขมันต่ำ แบบเมดิเตอร์เรเนียน
มีการค้นพบว่า  ผู้คนที่อยู่รายรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  เริ่มนับตั้งแต่  สเปนในฝั่งตะวันตกเรื่อยไปจนถึง
โมร็อกโก  อัลจีเรีย ตูนีเซีย ลิเบีย  และอียิปต์ทางตอนใต้  ไล่มาทางฝั่งตะวันออก  เป็นที่ตั้งของ
อิสราเอล เลบานอน ซีเรีย ตุรกี  จนถึงตอนเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของ กรีซ  อิตาลี  และฝรั่งเศสตอนใต้
ผู้คนในแถบที่ว่านี้  มักมีอายุยืนและสุขภาพแข็งแรง  อันเป็นผลมาจากรูปแบบการใช้ชีวิต  ซึ่งหมายความ
รวมไปถึงเรื่องของอาหารการกิน




สีสันและรสชาติของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน  เกิดจากเคล็ดลับการครัวที่สืบทอดกันมายาวนาน  เป็นการ
รู้จักนำผลผลิตจากธรรมชาติ มาใช้ปรุงอาหาร  โดยมีเครื่องปรุงสำคัญที่ทำให้รสชาติอาหารเมดิเตอร์
เรเนียน ไม่เหมือนใคร  อาทิ  น้ำมันมะกอก  หญ้าฝรั่น (Saffron)  กระเทียม ถั่วหลายชนิด  ไวน์  และ
ผักสดหลายชนิดที่นำปรุงเป็นซุปและสลัด  เช่น  พริกหวาน (Pimentos) มะเขือใหญ่  มะเขือเทศ มะกอก 
ผลฟิก (Fig)  และมะนาว   เท่านั้นยังไม่พอ  ยังนิยมใช้สมุนไพรช่วยปรุงแต่งรสชาติอาหาร  อย่างเช่น 
โหระพา  ออริกาโน่  พาร์สเลย์  ซาจ  ไฮม์ และโรสแมรี่ อีกด้วย 

ชาวเมดิเตอร์เรเนียน ไม่นิยมบริโภคสัตว์เนื้อแดงมากนัก  แต่กลับบริโภคปลา สัตว์ปีก ไข่  และผลผลิต
จากนม  พอสมควร  อีกทั้งยังดื่มไวน์ ในปริมาณที่พอเหมาะ ร่วมกับมื้ออาหาร  และมักปิดท้ายมื้อด้วย
ผลไม้สดมากกว่าของหวาน

นิสัยการบริโภคแบบนี้เอง  ที่ทำให้อาหารเมดิเตอร์เรเนียน  จัดได้ว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ  อาหาร
หลายชนิดมีไขมันต่ำและมีไฟเบอร์สูง  เริ่มตั้งแต่  พาสต้าและคุสคุส  (Couscous)  ที่ทำจากธัญพืช
พืชผักสมุนไพร ถั่งและผลไม้ 

ส่วนเครื่องปรุงที่พบทั่วไปอย่าง กระเทียม  ก็มีส่วนช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด  ลดระดับคอเลส
เตอรอล  อีกทั้งมีส่วนในการป้องกันมะเร็ง  ส่วนการดื่มไวน์ในปริมาณที่พอเหมาะร่วมกับมื้ออาหาร
ช่วยส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจ 

และสิ่งสำคัญคือการใช้น้ำมันมะกอกปรุงอาหารเป็นประจำ  ซึ่งทางการแพทย์ยอมรับแล้วว่า  น้ำมันมะกอก
มีคุณค่าในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน  เมื่อบวกกับอปนิสัยรักสนุก และใส่ใจเรื่องการ
ออกกำลังกาย  ทำให้ชาวเมดิเตอร์เรเนียนส่วนมาก มีสุขภาพแข็งแรง  จนชาวอเมริกันเองต้องหันมา
เอาอย่าง  และถือว่าเป็นรูปแบบการบริโภคที่เหมาะสมกับชีวิตทันสมัย

อย่างไรก็ตาม  ถึงแม้จะมีเทคนิคการครัวและเครื่องปรุงที่คล้ายกัน  ทว่าแต่ละประเทศก็จะมีเมนูจานเด็ด
เป็นของตัวเอง เช่น ชาวอิตาเลี่ยนจะมีชื่อเสียงในการปรุงพาสต้า  การทำไอศกรีมและซอร์เบต  (Sorbet)
ส่วน  คุสคุส (Couscous) เป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวโมร็อกโก   แต่สำหรับข้าวผัดปาเอย่า  (Paella)
ของสเปนจะหุงจากข้าวเมล็ดสั้น  (Short-grain rice)  และปรุงด้วยหญ้าฝรั่น  (Saffron)  และนิยม
รับประทานขนมหวาน  (Pastry)

(แถมท้ายอีกนิด  ทิวทัศน์ที่สวยงามของชายทะเล  ทำให้การรับประทานอาหารกลางแจ้ง  หรือ  Dining
Al Fresco  เป็นกิจกรรมสุดโปรดของผู้คนในแถบนี้  แต่จะคึกคักมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อน  คล้ายกัน
กับผู้คนในแถบอื่นที่ต้องเก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปปิกนิคริมทะเลในช่วงแดดอุ่น  ลมแรง 

หากมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยว  ควรหาโอกาสไปชมภาพหมู่บ้านชาวประมงยามเช้า  ขณะกลับจาก
การหาสัตว์ทะเลเพื่อนำมาปรุงอาหาร  และที่พลาดไม่ได้เลย คือการนั่งชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าริม
ชายหาด  พร้อมกับลิ้มรสอาหารที่ส่วนมากเป็นอาหารทะเล  ในบรรยากาศแบบ  Al fresco  ของชาว
เมดิเตอร์เรเนียน) 

*+*+*

อาหารไขมันต่ำ  แบบชาวโอกินาวา  ญี่ปุ่น

ผู้สูงอายุชาวโอกินาวาเป็นโรคหัวใจวาย
น้อยกว่าผู้สูงอายุชาวอเมริกัน  และมีอัตรา
เป็นมะเร็งทรวงอกและต่อมลูกหมากต่ำกว่าด้วย

ชาวโอกินาวา มีอายุขัยเฉลี่ย  ๗๘ ปี สำหรับผู้ชาย  และ  ๘๖ ปี สำหรับผู้หญิง  จัดเป็นหนึ่งในกลุ่ม
คนอายุยืนที่สุดในโลก

เครก วิลล์ค็อกซ์  จากโครงการศึกษาคนอายุร้อยปีแห่งโอกินาวา  บอกว่า  ชาวโอกินาวามีอัตราการ
เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่าง ๆ  อย่างเช่น  โรคหัวใจ  มะเร็งทรวงอก และต่อมลูกหมาก  และโรคสมอง
เสื่อม  ต่ำมาก

อาหารไขมันต่ำอาจเป็นปัจจัยอีกข้อหนึ่ง  "อาหารที่ประกอบด้วยผักแบบโอกินาวา  เต้าหู้  ซุปมิโซะ
ปลาหรือเนื้อสัตว์อีกเล็กน้อย  ให้แคลอรี่ต่ำแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นเล็ก ๆ อีก  แต่มีสารอาหารที่มีประโยชน์
กว่ากันเยอะเลย"  มาโกโตะ ซูซูกิ  จากโครงการศึกษาคนอายุร้อยปีแห่งโอกินาวา  บอก  ยิ่งไปกว่านั้น
ชาวโอกินาวาจำนวนมากที่เติบโตในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง  ไม่มีนิสัยตามใจปาก  พวกเขายึด
ถือภาษิตซึ่งได้รับอิทธิพลจากลัทธิขงจื๊อที่ว่า  "ฮาระฮาจิบุ  คือกินให้ท้องเกือบอิ่มก็พอ"

นอกจากนี้ ชาวโอกินาวายังปลูกผักผลไม้ส่วนใหญ่ไว้กินเอง  เกรก พลอตนิคอฟฟ์  นักวิจัยการแพทย์
แผนโบราณจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา  เรียกสวนครัวของผู้สูงอายุชาวโอกินาวาว่า  "ตู้ยาป้องกันโรค"
เขาบอกว่า สมุนไพร เครื่องเทศ ผลไม้ และผัก  อย่างหัวไชเท้า  กระเทียม ต้นหอม กะหล่ำปลี  ขมิ้น
และมะเขือเทศ  "มีสารที่อาจยับยั้งการก่อตัวของมะเร็งได้"

*+*+*

อาหารธรรมชาติ  คือสัจธรรมแท้ ๆ  ของเซียน
เซียน  ในลัทธิเต๋านั้น  เป็นผู้ที่ฝึกฝนตนให้มีวิถีชีวิตตามธรรมชาติ  เป็นผู้มีชีวิตยืนนาน  เคล็ดลับของ
เซียน ก็คือ  รับประทานอาหารธรรมชาติเป็นหลัก 

วิธีการของเซียน
* ต้องกินอาหารธรรมชาติที่สุด เท่าที่จะหาได้
* หาอาหารที่อยู่รอบตัวกิน (ประมาณไม่เกิน  ๓ กม.) เป็นดีที่สุด  (อาหารที่เคยชิน จะไม่เป็นพิษ) 
* ปกติไม่กินเนื้อสัตว์  (หากจำเป็น จะกินทั้งเลือดและเครื่องในสัตว์ด้วย)
* ไม่ทานอาหารที่ผ่านการผัดทอดด้วยไฟ
* ไม่กินอาหารที่อร่อยและทำอย่างประณีตเกินไป
* ห้ามกินเครื่องปรุงรส ๕ อย่าง  ได้แก่  พริก หอม ต้นกระเทียม มัสตาด ขึ้นฉ่าย  (หากกินประจำ
   จะเป็นอุปสรรคที่จะทำให้สุขภาพแข็งแรง)
*  ทุกครั้ง ควรกินอิ่มแค่  ๘๐ เปอร์เซ็นต์  และกินช้า ๆ  ไม่รีบร้อน  เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
*  อาหารที่เสริมสร้างความปกติสุข ๕ อย่าง ได้แก่ 
    **  กินใบไม้  เช่น กระถิน ชะอม  มะม่วง ตำลึง  เป็นต้น
    **  กินอาหารตามฤดูกาล
    **  ปรุงอาหารด้วยมือตนเอง
    **  อาหารสดดิบกินดีที่สุด
    **  ไม่ใส่เครื่องปรุงอาหารก่อนกิน

*+*+*

ชาวเอสกิโม  แข็งแรงดี  ไม่มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน

 อย่างชาวยุโรปและอเมริกา

ชาวเอสกิโม มีชีวิตอยู่ทางขั้วโลกเหนือ  ซึ่งที่นั้น ไม่มีพันธุ์ไม้อะไรขึ้น  มีแต่หิมะและน้ำแข็งปกคลุม
อยู่ทั่วไป  ตลอดปี   พวกเขาไม่มีโอกาสได้กินพืชผักผลไม้    ชาวเอสกิโมจึงกินแต่เนื้อสัตว์และเนื้อปลา
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

เนื้อสัตว์ที่เขากิน ส่วนมากคือ แมวน้ำ และปลาวาฬ    แม้ชาวเอสกิโมจะกินเนื้อ  แต่เขาก็ไม่มีปัญหา
เรื่องโรคอ้วน อย่างชาวยุโรปและอเมริกา 

จะเห็นว่า ชาวเอสกิโมดำรงชีวิตด้วยเนื้อสัตว์  ซึ่งแตกต่างจากเซียนที่ดำรงชีวิตด้วยพืชผัก   คนสองกลุ่ม
นี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง  

แล้วอะไรล่ะ !!  ที่ทำให้ชาวเอสกิโม  แข็งแรง  ไม่อ้วน  ไม่เป็นโรคตาบอดกลางคืน และไม่เป็นโรค
เท้าเปื่อย   คงต้องปล่อยให้เป็นข้อถกเถียงกันต่อไป  หรือจนกว่าจะมีผู้ไปทำการศึกษาวิจัยนำผลที่ได้
ออกมาแถลงให้ทราบกัน

    คงจะสรุปในที่นี้ไว้ได้ว่า  สุขภาพจะดี ถ้าท่านเลือกทานแต่อาหารไขมันต่ำ  ส่วนท่านจะเลือก
อาหารไขมันต่ำในแบบใดนั้น  ก็คงแล้วแต่ท่านจะเลือกด้วยตัวของท่านเอง


ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=686051

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น