ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วันพ่อแห่งชาติ มีประวัติความเป็นมา และความสำคัญอย่างไร

UploadImage

ประวัติความเป็นมา และความสำคัญของวันพ่อแห่งชาติ
 

วันพ่อแห่งชาติ 

         ใกล้จะถึงวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคมนี้แล้วนะคะ หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักวันพ่อแห่งชาติดีเท่าที่ควร วันนี้ศูนย์ข่าวการศึกษาไทยจึงอยากให้ทุกคนได้รู้จักวันพ่อแห่งชาติลึกซึ้งมากขึ้นค่ะ
 
          จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (ราชบัณฑิตยสถาน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หน้า 587) พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า พ่อ หมายถึง ชายผู้ให้กำเนิดแก่ลูก, คำที่ลูกเรียกชายผู้ให้กำเนิดตน ในทางพุทธศาสนา ได้ให้ความหมายของคำว่า “พ่อ” หมายถึง ชายผู้ให้กำเนิดแก่ลูกมีใช้หลายคำ เช่น บิดา (พ่อ) ชนก (ผู้ให้กำเนิด) สามี (ของแม่) เป็นต้น
 

UploadImage

         วันพ่อแห่งชาติ  5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการหนึ่งวัน เพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ อีกวันหนึ่งด้วย

         วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือวันพ่อแห่งชาติ มีความเป็นมาของวันสำคัญ คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์วิทท์มอร์เป็นผู้ถวายการประสูติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 9 แห่งบรมจักรีวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเจริญพระราชจริยาวัตรเป็นเอนกประการจำเนียรกาลผ่านมาถึงปัจจุบันที่สุดจะพรรณนาให้ครบถ้วนได้ท่ามกลางมหาสมาคมวันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่ พสกนิกรทุกคนยังจดจำได้ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” อันคำว่าโดย “ธรรม” นั้น ทรงหมายถึง ธรรมอันล้ำเลิศที่เรียกว่า “ทศพิธราชธรรม” หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า “ราชธรรม 10 ประการ”

         ราชธรรม 10 ประการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดมั่นทรงปฏิบัติโดยเคร่งครัด และส่งผลถึงพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเหนือเกล้าฯ ห่วงใยตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งพระเจ้าหลานเธอทุกพระองค์ต่างซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น “พ่อ” ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้
 

กิจกรรมที่ควรปฏิบัติในวันพ่อแห่งชาตินี้

1. ในวันพ่อแห่งชาติเราควรประดับธงชาติไทยที่อาคารบ้านเรือน

2. จัดพิธีศาสนสงฆ์ ทำบุญใส่บาตร อุทิศเป็นพระราชกุศล น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

3. จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล




UploadImage


วันพ่อแห่งชาติเกิดขึ้นได้อย่างไร
 
      วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่มหลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อแห่งชาติ พ่อเป็นผู้มีพระคุณที่มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงรักใคร่และให้ดอกพุทธรักษาเป็นสัญลักษณ์ วันพ่อแห่งชาติ

         ด้วยพ่อเป็นบุคคลผู้มีพระคุณ มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพ เทิดทูน และตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อนี่เป็นที่มาของการจัดให้มี วันพ่อแห่งชาติ
วัตถุประสงค์ของวันพ่อแห่งชาติ 4 ประการ คือ

1.       เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

2.       เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม

3.       เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ

4.       เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน  
 



ดอกไม้ประจำวันพ่อแห่งชาติ

UploadImage

         ดอกพุทธรักษาสีเหลือง เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ “พุทธรักษา” ซึ่งหมายถึง พระพุทธเจ้าทรงปกป้องคุ้มครอง ให้มีแต่ความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งมีเรียกกันมากว่า 200 ปี และสีเหลืองอันเป็นสีประจำวัน พระราชสมภพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของปวงชนชาวไทย การมอบดอกพุทธรักษาให้กับพ่อ จึงเสมือนกับการบอกถึง ความรักและเคารพบูชาพ่อ ผู้สร้างความสงบสุขร่มเย็นให้แก่ครอบครัว
 
     คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยปกป้องคุ้มครอง ไม่ให้มีเหตุร้ายหรืออันตรายเกิดแก่บ้านและผู้อาศัย
 

UploadImage

บทบาทของพ่อ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรุปบทบาทหน้าที่ของพ่อและแม่ไว้ 5 ข้อ

 1.       กันลูกออกจากความชั่ว

 2.       ปลูกฝังลูกไว้ในทางที่ดี

 3.       ให้ลูกได้รับการศึกษาเล่าเรียน

 4.       ให้ลูกได้แต่งงานกับคนดี

 5.       มอบทรัพย์มรดกให้เมื่อถึงการณ์อันควร
 

         หลังจากที่ได้รู้ความเป็นมาของวันพ่อแห่งชาติ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ศูนย์ข่าวการศึกษาไทยมีเพลงเพลงนึงที่มีความหมายดีๆ เกี่ยวกับพ่อหลวงของเรามาฝากค่ะ ชื่อเพลงรูปที่มีทุกบ้าน เป็นเพลงเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ประพันธ์คำร้องโดย นิติพงษ์ ห่อนาค ทำนองโดย อภิไชย เย็นพูนสุข เรียบเรียงเสียงประสานโดย วีรภัทร์ อึ้งอัมพร และขับร้องโดย ธงไชย แมคอินไตย์

https://youtu.be/1g3zrd2WVw8

ที่มา : http://www.enn.co.th/1579--วันพ่อแห่งชาติ_มีประวัติความเป็นมา_และความสำคัญอย่างไร.html

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การกินน้ำตาลในปริมาณมากมีผลเสียต่อสุขภาพเด็ก

การกินน้ำตาลในปริมาณมากมีผลเสียต่อสุขภาพเด็ก

ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดชี้ว่าเด็กที่รับประทานน้ำตาลน้อยลงจะมีอาการของโรคในกลุ่มเมตาโบลิคซินโดรมน้อยลง

Reducing childrens' intake of sugar can lead to improved health in a matter of days, according to new research.

ผลการศึกษานี้ตีพิมพ์ในวารสาร Obesity เมื่อไม่นานมานี้ เป็นผลงานของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of California San Francisco กับมหาวิทยาลัย Touro University California เปิดเผยว่า การกินน้ำตาลน้อยลงช่วยลดระดับไขมันในกระเเสเลือด ลดอาการความดันโลหิตสูง ตลอดจนโรคในกลุ่มเมตาโบลิคซินโดรม โดยไม่ต้องลดปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับหรือโดยไม่ต้องลดน้ำหนักตัว 
คุณ Robert Lusting ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อในเด็กที่ Benioff Children’s Hospital San Francisco แห่งมหาวิทยาลัย University of California San Francisco หรือ UCSF ซึ่งเป็นสมาชิกทีมวิจัยกล่าวว่า การศึกษาชิ้นนี้ช่วยยืนยันได้ว่าน้ำตาลมีผลเสียต่อระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายและส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ในกลุ่มเมตาโบลิคซินโดรม
ผลการศึกษานี้ถือเป็นข้อมูลที่หนักแน่นมากที่สุดเท่าที่มีมา ซึ่งชี้ให้เห็นผลเสียของน้ำตาลต่อร่างกายโดยไม่เกี่ยวข้องกับปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับหรือความอ้วน 
ด้านคุณ Jean-Marc Schwarz ผู้เชี่ยวชาญแห่งวิทยาลัยการแพทย์ Osteopathic Medicine มหาวิทยาลัย Touro University California ซึ่งเป็นสมาชิกในทีมวิจัยกล่าวว่าผลการศึกษานี้มีความสำคัญมากและช่วยเน้นย้ำความจำเป็นที่ผู้ปกครองควรใส่ใจกับปริมาณน้ำตาลที่ลูกรับประทาน
ทีมนักวิจัยทำการศึกษาเรื่องนี้ด้วยการเฝ้าติดตามเด็ก 43 คน อายุระหว่าง 9-18 ปี ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังในกลุ่มเมตาโบลิคซินโดรมโรคใดโรคหนึ่ง
ในการศึกษา เด็กๆ ได้รับอาหารที่ควบคุมระดับน้ำตาลนานเก้าวัน และอาหารดังกล่าวมีปริมาณแป้งเพิ่มมากขึ้นเพื่อคงระดับไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และปริมาณพลังงานหรือแคลอรี่ที่ได้รับ ให้เท่ากับระดับที่เด็กๆ ได้รับก่อนหน้าการวิจัย
ทีมนักวิจัยชี้ว่าจากปริมาณพลังงานทั้งหมดที่เด็กๆ ได้รับ เป็นน้ำตาลราว 10-28 เปอร์เซ็นต์และปริมาณ Fructose ราว 4-12 เปอร์เซ็นต์ 
ทีมนักวิจัยชี้ว่าหลังจากลดปริมาณน้ำตาลที่ผสมในอาหารลง เด็กๆ บอกว่ารู้สึกอิ่มมากกว่าเดิม ทั้งๆ ที่อาหารควบคุมน้ำตาลให้ปริมาณแคลอรี่แก่ร่างกายเท่าเดิมเพียงแต่ลดปริมาณน้ำตาลลงเท่านั้น เด็กบางคนในการทดลองบอกว่ารู้สึกว่าได้รับปริมาณอาหารมากกว่าเดิม 
คุณ Robert Lusting  นักวิจัยชี้ว่าผลการศึกษานี้ได้ผลที่น่าพอใจมาก เด็กๆ ในการทดลองมีระดับความดันโลหิตลดลง ระดับไขมันในเส้นเลือดต่ำลงและการทำงานของตับดีขึ้น 
เขากล่าวว่าปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เกิดจากความบกพร่องของระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายเริ่มดีขึ้น เพียงแค่ทดแทนน้ำตาลในอาหารแปรรูปด้วยคาร์โบไฮเดรต โดยไม่ต้องลดน้ำหนักตัวหรือออกกำลังกายแต่อย่างใด 
ทีมนักวิจัยชี้ว่าการศึกษานี้เเสดงให้เห็นว่า แคลอรี่ไม่ใช่ตัวสร้างปัญหาสุขภาพ แต่แหล่งที่มาของแคลอรี่ต่างหากที่เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพ
และการศึกษานี้ชี้ว่าแคลอรี่ที่มาจากน้ำตาลสร้างผลเสียต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะจะถูกแปลงเป็นไขมันในตับ นำไปสู่อาการต้านอินซูลินและกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคตับตามมา
ที่มา : http://www.voathai.com/content/kids-sugar-tk/3074539.html

โรคอ้วนทำให้ชาวอเมริกันใช้ยาตามใบสั่งแพทย์มากขึ้น

โรคอ้วนทำให้ชาวอเมริกันใช้ยาตามใบสั่งแพทย์มากขึ้น

ผลการศึกษาชิ้นใหม่ชี้ว่าคนอเมริกันใช้ยาตามใบสั่งแพทย์มากขึ้นกว่าในอดีตเพื่อบำบัดโรคต่างๆ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากโรคอ้วน

Obesity

ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดชี้ว่าชาวอเมริกันในปัจจุบันใช้ยาตามใบสั่งแพทย์กันมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อบำบัดโรคหลายโรครวมทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นโรคที่เราสามารถป้องกันได้
Dr. Elizabeth Kantor ผู้เชี่ยวชาญแห่ง Sloan-Kettering Memorial Cancer Center กล่าวว่าการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์เพื่อบำบัดโรคเหล่านี้สูงมาก ในกลุ่มคนอเมริกันที่อายุสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 
แต่การวิจัยชิ้นนี้ศึกษาการใช้ยารักษาโรคที่มากับโรคอ้วนตามใบสั่งแพทย์ในกลุ่มคนอเมริกันอายุน้อยโดยเริ่มตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปอีกด้วย และผลที่ได้ออกมาคล้ายคลึงกัน
Dr. Elizabeth Kantor ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การศึกษาพบว่ามีการใช้ยาควบคุมความดันเลือด เบาหวาน ไขมันในเส้นเลือด โรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นทั้งหมด และยาที่ใช้กันทั่วไปที่สุดคือยาประเภท statin ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการอาการเส้นเลือดในสมองแตก หัวใจวายและโรคที่เกิดกับหลอดเลือดและหัวใจ
การศึกษานี้พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเกือบ 8 เปอร์เซ็นต์กำลังใช้ยาชนิดนี้อยู่ในปัจจุบัน 
Dr. Elizabeth Kantor กล่าวว่าเมื่อศึกษายาที่ใช้กันทั่วไปอย่างน้อย 10 ชนิดในปี ค.ศ. 2011-2012 พบว่าคนอเมริกันใช้ยาเหล่านี้เพื่อบำบัดอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดและหัวใจเช่นเดียวกับโรคอื่นๆ ที่นำไปสู่การเกิดโรคหัวใจ 
ทีมวิจัยยังพบด้วยว่า จำนวนคนอเมริกันที่ต้องใช้ยาหลายตัวเพื่อบำบัดอาการต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวภายในระยะเวลา 10 ปี ในการศึกษานี้ นักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเวลานานสองปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 - 2000 และจากปี ค.ศ. 2011 -  2012
การศึกษานี้จัดทำโดยทีมนักวิจัยที่วิทยาลัยการแพทย์มหาวิทยาลัย Harvard และตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Medical Association ไปเมื่อเร็วๆ นี้
ที่มา : http://www.voathai.com/content/health-us-rx-drugs-obesity-tk/3066274.html

งานวิจัยชี้คนมีห่วงยางรอบเอวอันตรายกว่าคนเป็นโรคอ้วน

งานวิจัยชี้คนมีห่วงยางรอบเอวอันตรายกว่าคนเป็นโรคอ้วน

เพราะว่าน้ำหนักตัวของคนประเภทนี้อาจอยู่ในเกณฑ์ปกติ เลยไม่ค่อยจะอยากออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ


รายงานการศึกษาที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา กล่าวว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติ หรืออาจจะผอม แต่ไขมันไปรวมตัวอยู่รอบๆ เอว ทำให้เอวใหญ่กว่าสะโพก หรือจะว่ามียางอะไหล่อยู่ที่เอวนั้น มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าคนอื่นๆ รวมทั้งคนที่ถือว่ามีน้ำหนักตัวมากเกินขนาด หรือเป็นโรคอ้วน
คุณผู้ชายพุงใหญ่มีโอกาสจะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจมากกว่าคนที่เป็นโรคอ้วนถึงสองเท่า ในขณะที่คุณผู้หญิงที่มียางอะไหล่รอบเอว มีโอกาสจะเสียชีวิตมากกว่าคุณผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วนหนึ่งเท่าครึ่ง 
รายงานการศึกษาฉบับนี้ ซึ่งมีให้อ่านได้ในวารสาร Annals of Internal Medicine วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของคนประมาณ 15,000 คน
คุณหมอ Francisco Lopez-Jimenez แพทย์โรคหัวใจที่ Mayo Clinic ในเมือง Rochester รัฐ Minnesota เป็นนักวิจัยอาวุโสของทีมงานชุดนี้ ให้ความเห็นว่าคนที่มีขนาดร่างกายปกติ ยกเว้นส่วนกลาง หรือที่เรียกว่า central obesity มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวกระฉับกระเฉง
คุณหมออธิบายว่า เพราะว่าน้ำหนักตัวของคนประเภทนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เลยไม่ต้องทำอะไร ไม่ค่อยจะอยากออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจของ Mayo Clinic ผู้นี้กล่าวว่า ไขมันที่รวมตัวอยู่รอบเอวไปกดดันอวัยวะที่สำคัญๆ ทำให้อวัยวะเหล่านั้นต้องทำงานหนักมากขึ้น ในขณะที่ไขมันที่หน้าท้อง ทำให้การทำงานเผาผลาญอาหารไม่แข็งขันเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความว่าจะไม่แปรรูปน้ำตาล ทำให้อาจเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุด
ทางแก้ก็คือคุมน้ำหนักเพื่อให้ไขมันกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และออกกำลังกาย สร้างกล้ามเนื้อขึ้นตามขาและแขน เพราะว่ากล้ามเนื้อใช้น้ำตาล เมื่อมีมวลกล้ามเพิ่มขึ้น หมายความว่าน้ำตาลถูกใช้ไปมากขึ้นด้วย
ข้อเสนอแนะมาตรฐานสำหรับการรักษาสุขภาพในเวลานี้สำหรับผู้คนทั่วไป ไม่ว่าจะมีน้ำหนักตัวมากน้อยแค่ไหน
คือการออกกำลังกายระดับปานกลางจนถึงระดับเข้มสัปดาห์สามครั้ง!!!
ที่มา : http://www.voathai.com/content/spare-tire-mortality-nm/3056103.html