ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของพืช ผัก ผลไม้ต่างๆ

ประโยชน์ของพืช ผัก ผลไม้ต่างๆ 

  • เนยใส (เนยกี) ใช้หยอดหู แก้อาการน้ำในหูไม่สมดุลหรือหยอดจมูก แก้อาการคัดจมูก
  • เนื้อลูกยอ กินหน้าหนาว เช่นส้มตำลูกยอดิบ ล้างพิษได้ กินฤดูอื่น ช่วยขับพยาธิ ควรได้กินปีละครั้ง
  • เปลือกมังคุด ต้มน้ำกินช่วยสมานแผล
  • เม็ดแมงลัก เป็นตัวเก็บไขมันไปทิ้ง แต่กินตอนเย็นจะย่อยยาก ทำให้ท้องอืด
  • เม็ดบัว ต้มให้เปื่อย ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยฟื้นไข้ ฟื้นกำลัง เพิ่มสเปิร์ม เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
  • เหงือกปลาหมอ กับพริกไทย กับน้ำผึ้ง เป็นยาอายุวัฒนะ
  • เห็ดมีโปรตีนที่ดูดซึมได้ดีกว่าเนื้อสัตว์ ถั่ว มีกรดอมิโน สลายสารและต้านอนุมูลอิสระ
  • เห็ดหูหนูขาว บำรุงปอด
  • เห็ดหูหนูดำ เม็ดบัว งาดำ กินบำรุงไต
  • เห็ดหูหนูดำ ต้มกับหญ้าหวาน ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงสมอง ดีต่อปอด ไต ม้าม แต่อย่ากินตอนเย็น เพราะจะเย็นเกินไป

  • เอาน้ำขิงชงชาก็ดื่มดี การชงชาไม่ควรทิ้งชาแช่ในน้ำนานเกิน 5 นาที เพราะสารแทนนิน จะออกทำให้ท้องผูกและนอนไม่หลับ
  • แกงบอน ช่วยลดความชื้นในร่างกาย ปอดชื้น ไตชื้น ม้ามชื้น
  • แปะก๊วย กับใบบัวบก กับใบพู่ระหง บำรุงผม
  • แปะก๊วยมีประโยชน์เหมือนลูกบัว แต่น้อยกว่า และแพงกว่า
  • โรคเก๊าท์ รักษาโดยการกินลูกเดือยแทนข้าว 80 % ของอาหาร 3 มื้อใน 7 วันจะหายได้
  • ใบเตย กับ แก่นขนุน ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด
  • ใบเตย กับ ใบมะนาว ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด
  • ใบเตยดีกับหัวใจ
  • ใบโหระพาและสับปะรด ปั่นน้ำ ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด (ใบโหระพาเป็นยาอายุวัฒนะ)
  • ใบกระเพรา ต้นน้ำดื่ม ช่วยขับลม อาจเติมกูลโครสให้เด็กอยากดื่มก็ได้
  • ใบขลู่ (ไม่แน่ใจว่าสะกดคำถูงต้องหรือไม่) ช่วยลดไขมันในเลือดได้ดี โดยเอาใบขลู่ต้มกับกระเจี๊ยบ-พุทราจีน หรือนำมาผัดหมู่สับ ใส่ขึ้นฉ่าย และเกี้ยมบ๊วย แก้ริดสีดวงทวาร ลดเบาหวาน
  • ใบขลู่ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ดเลือด หรือตากแห้ง นำมาชงดื่มแบบชาก็ดี
  • ใบมะยม กินสดหรือต้มน้ำ (ต้มทั้งก้าน) แก้เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลดปวดหัว บำรุงตับอ่อน ช่วยปรับระดับน้ำตาลในสมดุล ช่วยระบาย บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ทำให้เจริญอาหาร ช่วยย่อย หรือใช้สูตรต้มกับหมูสับหรือเต้าหู้กินบำรุงกำลังดี กากใยของใบมะยมยังช่วยขับไขมันได้ดีด้วย จึงควรปลูกมะยมไว้ประจำบ้าน ปลูกในกระถางก็ได้ การหักให้หักทั้งกิ่งที่ยอดเพื่อให้มันแตกกิ่งเพิ่ม
  • ใบยอ นึ่ง คั้นน้ำ หรือปั่น กินแก้ปวดข้อ ไม่ควรกินสดเพราะมีสารพิษ
  • ใบยอ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ดเลือด ใบยอเผา ปิ้ง ยำ หรือใส่ในห่อหมก แก้ไอ คัดจมูก
  • ใบสัปปะรดสับ ต้มน้ำดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ
  • ใบหญ้าหวาน (สเตอเวีย) เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่มีประโยชน์ มีความหวานเป็น 40 เท่า ต้นน้ำดื่ม บำรุงตับอ่อน ธาตุ แก้ เบาหวาน เพิ่มกำลังวังชา สมานแผลทั้งภายในและภายนอก กินใหม่ๆน้ำตาลจะเพิ่ม แต่ไม่อ่อนเพลีย กินต่อไปน้ำตาลในเลือดจะลด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมอง
  • ไข่ - ควรกินไข่สุก หรือสุกขนาดเป็นมะตูมก็ได้ ไข่ดิบย่อยยาก ดูดซึมยาก
  • ไข่เค็ม ยังมีสารอาหารครบ
  • ไข่เยี่ยวม้า มีสารอาหารน้อยลง แต่มีโซเดียม ฟอสเฟตสูง ช่วยบำรุงไต
  • ไข่แดงเป็นโคเลสเตอรอลดี ช่วยในการดูดซึมของสารอาหารต่างๆ
  • กกเตย ช่วยฟื้นฟูตับอ่อน
  • กระเจี๊ยบเขียว กินแก้พยาธิตัวจี๊ด
  • กระเจี๊ยบเขียว ต้มกิน ช่วยแก้ท้องผูกสำหรับผู้ป่วยที่นอนนาน
  • กระเจี๊ยบแดงต้มกับพุทราจีน ช่วยหัวใจ ลดโคเลสเตอรอล ลดความดัน ลดไตกีเซอไรย์ ปรับเส้นเลือดให้ยึดหยุ่น แข็ง แรง ขยาย-ล้างหลอดเลือด แก้เส้นเลือดปูด ตีบ ขอด ในหัวใจโต ริดสีดวงทวาร ขยายเส้นเลือดในไต ไตแข็งแรงขึ้น ป้องกันเลือดกำเดาไหล กระเจี๊ยบแดงกินเดี่ยวทำให้ไตเสื่อม โลหิตจาง
    กระชาย จักรพรรดิแห่งสมุนไพร (โสมไทย) ดีกว่าโสมเพราะไม่มีสารที่เป็นพิษ มี 3 สีคือ ๑.กระชายเหลือง มีโอสถสารสูงสุด หาง่าย ๒.กระชายแดง หายาก ๓.กระชายดำ ประโยชน์ แก้ความดันสูง เลือดเป็นลิ่ม ฟื้นฟูตับ ต่อมไร้ท่อ ไต หัวใจ เพศ ทำให้ผมดำ เพิ่ม ฮอร์โมนเอสโตรเจน แคลเซียม เพิ่มสเปิร์ม แก้กระดูกเสื่อม บำรุงสมอง แก้ปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดแข้ง ปวดขา ขับลม ให้กำลัง ทำให้ไข่พยาธิฝ่อ กินพร้อมเปลือก กินได้ทั้งต้น ไม่มีพิษ วิธีทำ ใช้กระชาย ½ กิโล คั้นน้ำ 2 ลิตร แยกกาก เก็บในตู้เย็นไว้ดื่ม ตำก็ได้ ผสมน้ำผลไม้ก็ได้ กากไม่ควรกิน เพราะจะดูดโอสถสารกลับ กากใช้ผสมเหล้ากับน้ำตาลทราย พอกเข่าแก้ปวดได้ ใช้เลี้ยงกุ้ง โตเร็ว ไม่ขี้โรค ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ ปลอดภัย ล้างผัก ผลไม้ดีที่สุด ไม่มีสารตกค้างที่ร่างกายไม่ต้องการ การคั้นน้ำได้โอสถสารมากที่สุด การต้มจะเหลือแค่การขับลม การดองเหล้าก็ได้ กินแล้ว คึกทางเพศ กระชาย ที่ใส่ฟอร์มารีนให้แช่ด้วยน้ำเกลือ ล้างออกได้
  • กระท่อม ใช้แก้ท้องเสีย (เป็นสารเสพติด) ทำให้ทนแดด ทนฝน ทนงานหนัก แต่กลัวฝนจนตัวสั่น
  • กล้วยน้ำว้า ช่วยปรับสมดุลระหว่างช่วงความแตกต่างของอาหาร เช่น อาหารไทย – เทศอาหารเจ – คาว ช่วงอด – ไม่อด กินก่อนการเปลี่ยนอาหาร
  • กลอย เป็นอาหารแป้ง ช่วยอุ้มไขมันไปทิ้ง เหมือน มันเทศ บุก กรอบภูเขา ฮ่วยซัว
  • กะทิ สด ละลายในน้ำได้ดี (ไม่เหมือนไขมัน) ช่วยล้างหลอดเลือด ขับพญาธิ ฆ่าฤทธิ์ ช่วยระบาย
  • กุยฉ่าย ช่วยลดความดัน ฟอกเลือด
  • กุหลาบ บำรุงหัวใจ ทำให้หายใจโล่ง รู้สึกกระปี้กระเปล่า (สีแดงในพริกด้วย)
  • ขนุน บำรุงหัวใจ
  • ขมิ้นชัน มีวิตามิน เอ ซี อี บี รวม เบต้าแครอทีน สังกะสี สารสีเหลือง Curcumin ที่ไม่มีในอย่างอื่น ช่วยล้างไขมันในตับ แต่ไม่ล้างพิษ ป้องกันมะเร็ง กินก่อนนอน กินมากไม่มีผลเสีย ช่วยให้ผิวสวย ต้านหวัด ขจัดเซลล์ร้าย เซลล์มะเร็ง (การทำคีโมขจัดเซลล์ทุกอย่าง) ต้านอนุมูลอิสระ แบบผงละลายน้ำดื่มแก้ท้องผูก เปลือกขมิ้นชันกินไม่ได้ มีพิษ กินขมิ้นชันตอนตี 3 บำรุงปอด ผิว ตี 5 บำรุงลำไส้ใหญ่ ฟื้นปลายประสาท ไม่เป็นริดสีดวง 7 น. บำรุงกระเพาะ ทำให้เนื้อแน่น 9 น. แก้น้ำเหลืองเสีย เก๊า เบาหวาน ลดความอ้วน 11 น. เป็นต้นไป บำรุงตับ ผิว ถ้าทานแล้วท้องเสีย ร่างการกำลังขับพิษ ให้หยุดแล้วเริ่มทานแต่น้อย กิน 10 – 20 แคปซูล ตอนเช้าแก้ท้องผูกได้
    ของดอง ผักดอง หนำเลี้ยบ หน่อไม้ดอง บำรุงไต
  • ข้าวเหนียว 2 ส่วน ต้มกับลำไยแห้ง 1 ส่วน ใส่น้ำมากๆ กินบำรุง ปอด หัวใจ ตับ
  • ขิง หอม กระเทียม น้ำผึ้งมะนาว กินแก้หอบหืด ลดไขมัน
  • ขี้เหล็ก ช่วยขับถ่ายดี เพิ่มเม็ดเลือด นอนหลับดี ไม่ควรกินสด เพราะมีสารพิษ
  • ขึ้นฉ่ายคู่กับ เกี้ยมบ๊วย
  • จับฉ่าย ควรใส่หัวใช้เท้า ช่วยล้างพิษ สารตกค้าง
  • ดอกแค ดอกกาสะลอง (ดอกปีบ) ช่วยบำรุงปอด ตากแห้ง ชงน้ำดื่ม
  • ดอกคำฝอย กับเก๊กฮวย ช่วยจับโคเลสเตอรอล แล้วลูกสำลองจะช่วยขับออก
  • ดอกคำฝอย ถ้ากินเดี่ยวๆ จะลดโคเลสเตอรอลได้มาก อาจทำให้ซึมได้
  • ดอกชุมเห็ด ทำให้ถ่ายอย่างแรง เพราะมีพิษ ควรลวกแล้วราดด้วยกะทิล้างพิษ ไม่ควรกินเกิน 3 ดอก
  • ดอกอันชัน ทานสดได้ บีบมะนาวจะเป็นสีชมพู บำรุงไต ช่วยย่อย ทำให้น้ำเหลืองแห้ง
  • ถั่ว 5 สี (กะยาคู) เป็นยาอายุวัฒนะ ถั่วขาว บำรุงปอด ถั่วแดง บำรุงหัวใจ ถั่วดำ บำรุงไต ถั่วเหลือง บำรุงม้าม ถั่วเขียว บำรุงตับ ใส่เพิ่มลูกเดือย มันเทศก็ได้
  • น้ำเต้าก็ใช้แทนกล้วยน้ำว้าได้
  • น้ำใบบัวบก บำรุงสมอง
  • น้ำตาลกรวดย่อยง่ายกว่า ดูดซึมดีกว่า น้ำตาลทราย
  • น้ำปัสสาวะ เป็นน้ำที่ได้จากการกลั่นเอาอาหารที่กินเข้าไป เหลือแยกออกมา ฉะนั้นโดยความเป็นจริง แล้วน้ำปัสสาวะสะอาด (ไม่เหมือนอุจระที่จะสกปรก) และมีสารอาหาร เกลือแร่ เลือด ที่เหลือ จากการดูดซึมเข้าร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร อินเตอร์เฟอรอล ที่สามารถล้างพิษได้ น้ำ ปัสสาวะสามารถใช้ดื่มเพื่อล้างระบบต่างๆในร่างกายที่มีปัญหา เพียงแต่รองใส่ภาชนะเวลาถ่าย แล้วดื่มได้เลย
  • น้ำฟักทอง บำรุงไต
  • น้ำมะพร้าวอ่อน ช่วยเพิ่มฮอร์โมน เอสโตรเจน สำหรับเพศหญิง บำรุงผม เนื้อมะพร้าว ถ้าอ่อนเป็นวุ้น มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ถ้าเนื้อขาวแข็งมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโลน
  • น้ำหญ้าหวาน (บำรุงม้าม ธาตุ) ต้มกับเห็ดหูหนูดำ (บำรุงไต) กับน้ำตาลกรวด (บำรุงปอด) ดื่มเพิ่มพลัง แก้อ่อนเพลีย แต่ดื่มแล้วเย็นใน
  • บอระเพ็ด ยาว 1 เกียก ต้นน้ำดื่มช่วยล้างระบบดูดซึมได้ ทำให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนหน้าดี
  • ผักชี กับสับปะรด ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด
  • ฝัก คู่กับมะนาวดอง
  • พริกปาปริกา ช่วยการไหลเวียนของเลือด
  • ฟักข้าว ช่วยขับพยาธิ บำรุงธาตุ ขับไรฝุ่น เอาเปลือกออกกินทั้งเนื้อทั้งเม็ด ต้มยำปลากระป๋อง
  • ฟ้าทะลายโจร เป็นยาเย็น เหมือนมะระ ถ้ากลัวเย็นไปให้กินตามด้วยน้ำขิง
  • มะเขือเทศ บำรุงเลือด หัวใจ แก้โรคซึมเศร้า คนที่หัวใจโต ไตไม่ดีไม่ควรกิน
  • มะขามเทศมีโซเดียมและแคลเซียมสูง เปลือกใช้ทำยาย้อมผม และยาสระผม
  • มะละกินคู่กับ ผักดอง
  • มันเทศ กินแก้อ่อนเพลีย แก้ม้ามชื้น ซึ่งทำให้อ้วนง่าย กินแล้วผอม
  • มันสำปะหลัง กินแล้วอ้วน กินตอน 9.00 น เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย
  • ยอดมะลุม มีเบต้า แครอลทีน ทำให้ผิวดี แก้ตกกระ มีสารเพ็กติน นิ่มๆ ฆ่าพยาธิได้ มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ใบต้านเบาหวาน ทำให้ขับถ่ายดี ป้องกันไมเกรน
  • รากเตย ต้มน้ำ ดื่มแก้เบาหวาน ดีกับตับอ่อน
  • ลำไยสด บำรุงกำลัง หัวใจ เปลือกมีสารทำให้ร้อนใน แก้โดยให้แช่น้ำเกลือก่อนแกะ หรือดื่มน้ำเกลือตาม เม็ดลำไยตากแห้งบด นำมาโรยแผลช่วยให้น้ำเหลืองแห้ง
  • ลูกเกดแห้ง บำรุงถุงนำดี ตับ ไต
  • ลูกเดือย บำรุงเส้นเอ็น บำรุงกระดูก แก้กระดูกแตก
  • ลูกเดือยต้มกับถั่วขาว ถั่วขาว 1 ส่วน ลูกเดือย 2 ส่วน ต้มน้ำ 20 เท่า กินแต่น้ำ บำรุงตับ
  • ลูกไข่เน่า ผลไม้สีดำ คล้ายพุทรา เม็ดลีบ กลืนได้ ช่วยระบบขับถ่าย กินแล้วหัวดี กินสดหรือดองน้ำเกลือ บำรุงไต กระดูก แก้กระดูกผุ บำรุงระบบเพศ สมอง ต่อมไร้ท่อ เหมือนกระชาย มีแคลเซียมสูง
  • ลูกมะหวด มีวิตามินเอ ซี อีสูง และ ฮอร์โมนเอสโตรเจน มาก ต้านอนุมูลอิสระ ฟอกเลือด ใบใช้บ่มมะม่วงให้สุก
  • ลูกยอสุก เอาเม็ดออก ผสมยาสระผมสมุนไพร แก้เหา แก้คันจากไรฝุ่น ใช้ขับประจำเดือนอย่างแรง (ระวังอาจแท้งได้) ลูกยอมีฮอร์โมนเอสโตรเจน และตัวเบื่อเมา ใช้สับปะรดใส่ช่วยดับกลิ่นลูกยอได้
  • ลูกสำลอง กับหญ้าหวาน กับดอกคำฝอย กับเก๊กฮวย ช่วยลดโคเลสเตอรอลดี ลูกสำลองมีประโยชน์เหมือนรังนก บำรุงปอด รังนกแท้หายาก ของปลอมทำจากรากไม้ลูกหูกวางกินแล้วแล้วขาไม่มีแรง
  • ว่านรางจืด ช่วยล้างพิษจากน้ำตาลในเลือด
  • ว่านหางจระเข้ ปอกเปลือก เอาเมือกเหลืองๆออก เอาวุ้นใสๆทาแก้แพ้ ผื่นแดงที่เกิดจากน้ำไม่สะอาด
  • สะเดา ถ้ากินน้อย กินสดไม่เป็นไร ถ้ากินมาก ควรทำให้สุกก่อน
  • สะเดาสด ลวก ช่วยระบบท้องดี เพิ่มน้ำย่อย ลดไข้ ล้างไขมัน อย่าทานทุกวัน จะปวดเมื่อยตัว
  • สาหร่ายทะเล ช่วยฟอกเลือด ปรับสมดุล ลดอาการบวม นำมาอบหรือคั่ว จิ้มซีอิ้วกินอร่อย
  • หน่อไม้ดอง บำรุงไต ล้างยา ล้างพิษ
  • หน่อไม้สด ควรกินคู่กับใบหญ้านาง (เป็นการล้างพิษของหน่อไม้ออก) ช่วยขยายหลอดเลือด
  • หมึกในปลาหมึก ช่วยแก้ร้อนใน ปากเป็นแผล บำรุงไต ล้างระบบดูดซึม ลดโคเลสเตอรอลในปลาหมึก
  • หัวไช้เท้า ล้างยา ล้างพิษ ฉะนั้นคนป่วยกินยาไม่ควรกิน
  • หัวต้นหอมดีกับปอด หางกินแล้วเย็น
  • องุ่นสีม่วง ช่วยฟอกเลือด บำรุงหัวใจ มีโปรแตสเซี่ยมสูง (กินมากไม่ดีต่อตับ) กินสดจะได้วิตามิน เอ ซี อี สูง ถ้ากวน จะมีวิตามินน้อยลง แต่ได้เอสโตรเจนเพิ่ม
  • อินทผารัม บำรุงไต ระบบเพศ 
ที่มา :  http://www.thaiyuh.com/main/index.php/2012-11-26-02-00-55/80-2012-12-13-04-00-01

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เคล็ดลับจากทั่วโลก เพื่อให้อายุยืนยาวถึง 100 ปี


          เห็นข่าวทำนองบันทึกสถิติชายชรา-หญิงชรา ที่อายุมากที่สุดในโลกขึ้นมาทีไร ก็ชวนให้คิดถึงตัวเองทุกทีว่า อย่างเรานี่จะอยู่ได้ยืนยาวถึงอายุเท่าไหร่กันหนอ โดยเฉพาะประชากรอาวุโสจากเกาะซาร์ดิเนียของประเทศอิตาลี และเกาะโอกินาว่าของประเทศญี่ปุ่น ที่มีอายุขัยเฉลี่ยมากกว่าประชากรอาวุโสจากประเทศอื่น ๆ อยู่ถึง 10 ปี แถมที่เกาะทั้งสองนี้คุณปู่คุณตาทั้งหลายยังอายุยืนพอ ๆ กับคุณย่าคุณยายเสียด้วยสิ ทั้ง ๆ ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะอยู่ทนอยู่นานกว่าผู้ชายด้วยซ้ำไป 

          แหม เขามีเคล็ดลับดี ๆ อะไรหนอให้อายุยืนได้ขนาดนี้ ลองไปดูกันดีกว่าครับว่าเคล็ดลับการอยู่ให้อายุยืนยาวจากเกาะทั้งสองนี้ และพื้นที่อื่น ๆ จากทั่วโลกที่มีประชากรสูงวัยจนแทบทุบสติติโลก มีอะไรกันบ้าง 

เคล็ดลับอายุยืนจากเกาะซาดิร์เนีย ประเทศอิตาลี

          มีบันทึกว่า สิ่งที่ทำให้ประชากรของซาดิเนียมีอายุยืนยาว ส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมของคนในพื้นที่ และอีกส่วนหนึ่งก็มาจากไลฟ์สไตล์แบบท้องถิ่นของพวกเขา และนี่ก็คือเคล็ดลับที่ว่าครับ..

ดื่มไวน์ 

          เป็นที่รู้กันว่าชาวอิตาลีนิยมดื่มไวน์กันวันละ 2 แก้ว ชาวซาร์ดิเนียเองก็เช่นกัน แต่ท่าทางไวน์ท้องถิ่นที่เรียกว่า Cannonau ซึ่งมีรสชาติสดชื่นของเชอร์รี่และเปบเปอร์มินต์ จะมีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งดีกับหัวใจอยู่ในปริมาณมากกว่าไวน์ทั่วไป ชาวซาร์ดิเนียก็เลยแข็งแรงอย่างที่เห็นนั่นเอง 

ไม่หยุดเรียนรู้ 

          ชาวซาร์ดิเนียยังคงทำงานกันแม้จะแก่ชราจนอายุ 90 กว่าปีแล้ว แต่คุณเองไม่จำเป็นต้องทำงานอย่างจริง ๆ จัง ๆ ขนาดนั้นก็ได้ แต่ให้หาทางให้สมองได้ทำงานอยู่เรื่อย ๆ ด้วยการเรียนรู้ที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง อย่างลองลงคลาสเรียนภาษา หรือว่ากิจกรรมอื่น ๆ ที่ตัวเองสนใจก็ได้นะ  

เคล็ดลับอายุยืนจากเกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น

          แม้ว่าเกาะโอกินาว่า จะนับเป็นเกาะที่ยากจนที่สุดของญี่ปุ่น แต่ถ้าเป็นเรื่องของสุขภาพแล้วล่ะก็ เกาะแห่งนี้ไม่น้อยหน้าใครแน่ ๆ ประชากรอาวุโสของโอกินาว่ามีสุขภาพหัวใจที่ดี แถมยังมีคลอเรสเตอรอลชนิดร้ายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเยอะทีเดียว 

 กินมันหวาน 

          อ่านหัวข้อแล้วคิดถึงชิซุกะจังในโดราเอมอนที่ชอบกินมันเผา ชาวโอกินาว่าเองก็เช่นกัน ประชากรบนเกาะนี้แทบจะทานมันหวานแทนข้าว ซึ่งมีปริมาณคลอเรสเตอรอลต่ำกว่า ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นยาต่อต้านอาการอักเสบปวดบวมต่าง ๆ นอกจากนี้มันหวานยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินซี ไฟเบอร์ และแคโรทีนอยด์ แถมแม้จะขึ้นชื่อว่ามันหวาน แต่มันก็ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดพุ่งขึ้นอย่างมันฝรั่งทั่ว ๆ ไปเสียด้วย 

เข้าสังคม

          ชาวโอกินาว่าจะตั้งกลุ่มเล็ก ๆ ราว 4-5 คน ของคนที่สนใจในเรื่องราวคล้าย ๆ กันมาสังสรรค์สมาคมกันอยู่เป็นประจำ การเข้าสังคมเช่นนี้เรียกว่า "โมะอาย" จากการศึกษาพบว่าผู้อาวุโสที่มีการพบปะสังสรรค์โมะอายกันอยู่เป็นประจำ มีค่าเฉลี่ยเสียชีวิตเป็นโรคหัวใจหรือโรคมะเร็งน้อยกว่าคนที่ชอบเก็บตัว หรือไม่ค่อยเข้าสังคมกับใคร ๆ 

เคล็ดลับอายุยืนจากเมืองนิโกย่า ประเทศคอสตาริกา

          นักประชากรศาสตร์ชาวคอสตาริกากล่าวไว้ว่า เมื่อผู้ชายอายุได้ 60 ปี ผู้ชายจากเมืองนิโกย่า มีโอกาสอยู่ยืนยาวไปจนถึงอายุ 90 ปี มากกว่าผู้ชายจากประเทศที่พัฒนาแล้วถึง 2 เท่าเลยล่ะ และเคล็ดลับอายุยืนของชายชาวนิโกย่าก็คือ..

 หลีกเลี่ยงความเครียดที่จะทำให้โครโมโซมอายุสั้นลง 

          ผู้เชี่ยวชาญได้นำตัวอย่างเลือดจากผู้อาวุโสที่มีอายุยืนกลุ่มหนึ่งจากเมืองนิโกย่ามาวิจัย และได้พบว่าพวกเขามีเอนไซม์ที่เรียกว่าเทโลเมียร์ ซึ่งอยู่ที่ส่วนปลายของโครโมโซม และเป็นตัวบ่งชี้ว่าเซลล์จะสามารถแบ่งตัวได้กี่ครั้งจึงจะสิ้นอายุขัย โดยการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าการมีเอนไซม์เทโลเมียร์ที่แข็งแรงดี มีความสัมพันธ์ถึงการมีอายุยืนด้วย ฉะนั้น หากอยากให้เอนไซม์เทโลเมียร์มาต่ออยู่ที่ส่วนท้ายของโครโมโซมนั้นแข็งแรงดี ก็ให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำร้ายมัน อันได้แก่ ความเครียด นั่นเอง 

 ปล่อยวาง 

          การปล่อยวางหรือการรู้สึกไม่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ครอบครองสิ่งใด ๆ มากมายนัก เป็นการตัดปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดได้ทางหนึ่ง จากผลจากศึกษาหนึ่งในปี 2010 ของอเมริกา พบว่า ผู้คนรู้สึกไม่พึงพอใจและเสียใจกับการกระทำในอดีตของตัวเอง กับการทุ่มลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นเจ้าของสิ่งของหรือประสบการณ์ต่าง ๆ

ปลูกพืชผักสวนครัว 

          การปลูกพืชผักสวนครัว นอกจากจะเป็นการใช้เวลาในช่วงท้ายของชีวิตอย่างเป็นประโยชน์แล้ว ยังได้พืชผักสด ๆ มาปรุงอาหารใหม่ ๆ ได้ทุกมื้อ ต่างจากอาหารที่เตรียมไว้เพื่อรับประทานหลาย ๆ วันแบบไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ซึ่งจะสูญเสียวิตามินบีและซีลงไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่ปลูกพืชผักสวนครัวเองมีแนวโน้มที่จะได้ทาน ผักซึ่งเป็นประโยชน์กับร่างกายมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำสวนพืชผักสวนครัวด้วยตัวเองอีกด้วย (ก็แหงอยู่แล้วล่ะเนอะ)

เคล็ดลับอายุยืนจากเกาะอิคาเรีย ประเทศกรีซ

          เกาะเล็ก ๆ ของกรีซที่อยู่ในทะเลอีเจียน มีประชากรที่มีสุขภาพดี และอายุยืนยาวไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในโลกเช่นกัน 



กินปลา ช่วยต้านทานโรคซึมเศร้า 

          โรคซึมเศร้า นับเป็นโรคที่บ่อนทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นโรคที่ชายชาวอิคาเรียนแทบไม่เป็นกันเลย ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2010 ของกรีซพบว่า ชายชาวอิคาเรียนซึ่งกินปลาเฉลี่ย 300 กรัมต่อสัปดาห์ มีความต้านทานต่อการเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไปถึง 66%อาหารของพวกเขามักประกอบด้วยปลาซาร์ดีน ปลาบรีม และปลาอื่น ๆ อันอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้งยังมีกรด EPA และ DHA ด้วย ซึ่งสารทั้งหลายเหล่านี้ช่วยรักษาของสมดุลของสารเคมีในสมอง ทำให้มีอารมณ์ปลอดโปร่งดีนั่นเอง เอาล่ะ จากนี้ไปอย่าลืมเติมอาหารจานปลาทะเลลงในเมนูของคุณด้วยนะครับ 

  งีบหลับพักผ่อน 

          กว่า 80% ของชายชาวอิคาเรียน รวมทั้งชายชราอายุ 90 ปีขึ้นไป ต่างให้เวลาตัวเองในการงีบหลับพักผ่อนในยามบ่าย จากการสำรวจและศึกษาประชากรกรีกจำนวน 23,000 คน พบว่า การได้งีบหลับในยามบ่ายเป็นประจำทำให้ห่างไกลจากโรคหัวใจมากกว่าคนทั่ว ๆ ไปถึง 37% ส่วนเวลางีบหลับที่ดีที่สุดคือยามบ่ายหลังมื้ออาหารไปนิดหน่อยครับผม

เคล็ดลับอายุยืนจากเมืองลินดา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

          เมืองเล็ก ๆ จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งมีประชากรชาวคริสตจักรเซเว่น เดย์ แอดเวนทิสต์ ซึ่งเป็นคริสตศาสนิกชน นิกายโปรเตสแตนท์ ผู้เคร่งครัดต่อศาสนา มีประชากรที่อายุยืนยาวและสุขภาพดีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ลองไปดูเคล็ดลับอายุยืนของเขากันเลย 

เคร่งศาสนา 

          จากผลการศึกษาในปี 2008 พบว่า ผู้ที่อุทิศตนเพื่อศาสนา อย่างน้อยก็ต้องไปเข้าโบสถ์เป็นประจำสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง มีอายุยืนยาวนานกว่าผู้ที่ไม่เคร่งศาสนาถึง 8 ปีครึ่ง ทั้งนี้ คาดว่าการได้ไปพบปะกับผู้คนที่หันหน้าเข้าหาศาสนาเหมือน ๆ กัน ได้เติมเต็มความสุขด้วยจิตใจที่ผุดผ่อง มีส่วนช่วยให้จิตใจแข็งแรง อายุยืนนานขึ้น ทั้งยังพบว่าการทำงานอย่างอาสาสมัครจะช่วยต้านทานอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย 

พักผ่อน เพื่อหนีห่างความเครียด 

          กลุ่มคริสจักรแอดเวนทิสต์ จัดให้วันหนึ่งในสัปดาห์เป็นวันแห่งการพักผ่อนอยู่เสมอ คุณล่ะมีเวลาว่างให้ตัวเองได้ผ่อนคลายจากความเครียดและภาระทั้งหลายบ้างหรือไม่ อาจไม่จำเป็นต้องพักผ่อนทั้งเต็มวัน แต่แบ่งเวลาในช่วงต่าง ๆ ของวันให้ได้รีแลกซ์ผ่อนคลายเสียบ้าง อย่างการออกมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ก็จะทำให้จิตใจปลอดโปร่งขึ้น ช่วยให้สุขภาพจิตดี อายุยืนได้อีกทาง 

          เพราะเคล็ดลับเหล่านี้นี่เอง ทำให้ผู้คนที่มีอายุยืนกระจุกตัวกันอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ในโลก และแต่ละพื้นที่ก็ดูเหมือนจะมีเคล็ดลับเฉพาะตัวต่าง ๆ กันไป ส่วนคุณเองแม้จะไม่ได้ไปอยู่ในพื้นที่แหล่งรวมตัวของผู้ที่มีอายุยืนนับร้อยปีกับเขา แต่ก็ถ้าลองทำตามเคล็ดลับที่นำมาฝากกันวันนี้ ก็รับรองว่ายังไงก็ต้องสุขภาพดีขึ้น อายุยืนยาวขึ้นกว่าเดิมได้บ้างแน่นอนล่ะครับ ^^

ที่มา :  http://men.kapook.com/view40317.html

8 ประการของการดูแลสุขภาพ














 หลัก ๘ ประการของการดูแลรักษาสุขภาพ

    ๑. รับประทานอาหาร  อย่างถูกต้องเหมาะสม
           อาหารเช้า
                   สำคัญมากเพราะช่วงเช้าร่างกายขาดน้ำตาล ถ้าไม่รับประทานอาหารเช้าจะเกิดภาวะขาดน้ำตาลซึ่งจะมี
    ผลทำให้ความคิดตื้อตันไม่ปลอดโปร่ง วิตกกังวล ใจสั่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด โมโหง่าย มื้อเช้ารับประทานได้เช้า
    ที่สุดยิ่งดี (ระหว่างเวลา ๖.๐๐ – ๗.๐๐ น.) เพราะท้องว่างมานาน หากยังไม่มีอาหารให้ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำข้าวอุ่น ๆ
    ก่อน ควรทานข้าวต้มร้อน ๆ จะช่วยให้ง่ายต่อการขับถ่ายอุจจาระ ถ้าจำเป็นต้องรับประทาน(สาย) ใกล้อาหารมื้อ
    กลางวัน อย่ารับประทานมาก
          อาหารเพล (อาหารมื้อกลางวัน)
                   ควรเป็นอาหารหนัก เช่น ข้าวสวย พร้อมกับข้าวครบ ๕ หมู่ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมาก และควร
    รับประทานให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย

    ๒. ขับถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะ สม่ำเสมอทุกวัน
    ๓. ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม กับฤดูกาล เช่น หน้าหนาวก็ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ สวมหมวก ถุงมือ ถุงเท้า
         ขณะนอนตอนกลางคืนควรห่มผ้าปิดถึงอก
    ๔. ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายกลางแจ้งทุกวัน
    ๕. รักษาความสะอาดของสถานที่พักอาศัย เพื่อช่วยให้สิ่งแวดล้อมดี อากาศดี
    ๖. รักษาอารมณ์ให้ปลอดโปร่ง แจ่มใสตลอดทั้งวัน และอย่าลืมนั่งสมาธิทุกวัน
    ๗. พักผ่อนให้เพียงพอ เหมาะสมกับเพศ และวัยไม่ควรนอนดึกเกิน ๒๒.๐๐ น. ติดต่อกันหลายวัน
    ๘. มีท่าทาง และอิริยาบถที่ถูกต้องเหมาะสม ในการทำงานในชีวิตประจำวัน

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความรู้เรื่องอาหารและสุขภาพ 20 ชนิด อาหารล้างพิษ



20 ชนิด อาหารล้างพิษ

ปัจจุบันนี้อาหารการกิน หาซื้อหาได้ง่าย แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า สิ่งที่ทานไปแต่ละมื้อ แอบทำให้ร่างกายเราบั่นทอน แทนที่จะได้คุณประโยชน์ ฉะนั้นต้องหันมาดูแลกันให้มากขึ้น วันนี้จึงมีอาหารล้างพิษ 20 ชนิด มาแนะนำกัน

กล้วย
มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรงแก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ทีจำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกาย โดยช่วยขับของเหลวหรือสารพิษส่วนเกิน ออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบ ขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย

อัลมอนด์
เป็นถั่วที่มีใยอาหารสูงมีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมันแต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย ในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควรกินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย (Hyperglycemia) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่าไฮโปไกลซีเมีย (Hypoglycemia) จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรงคิดอะไรไม่ออก

แอปเปิ้ล
ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอล และโลหะหนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเปิ้ล เพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่า แอปเปิ้ลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้

ตำลึง
ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้วหาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อย ๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่า แกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบและมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติช่วยผลิตน้ำดี ที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย

อะโวคาโด
อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน (Glutathione) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมี และโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะ มีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ ได้กินและมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

บีทรูท
ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้ นับเป็นผักมหัศจรรย์ซึ่งประกอบไปด้วยไพโรเคมีคอล (Phytochemical) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีทรูทมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ทำความสะอาดตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติพิเศษ ที่ส่งเสริมให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็ว ขึ้นซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ พบว่าบีทรูทช่วยปรับระดับกรดและด่างในเลือดให้สมดุลด้ว

กะหล่ำ
เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพาะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลีและกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกาย และช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย

บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์สูงมากชนิดหนึ่ง และถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

กระเทียม
จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกัน ถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือด และทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย

ส้มโอ หรือเกรปฟรุต
เป็นผลไม้รสชาติดีที่ได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกัน ไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุต ช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

มะเขือพวง
คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภทผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิและน้ำพริกสมัยก่อนแกงกะทิ เช่น แกงไก่ใส่มะเขือพวง ใส่ไก่น้อย เน้นการกินมะเขือเป็นหลัก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน มะเขือพวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้น และลดการสะสมของเสีย

แครอท
เต็มไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน (Alpha and Beta-carotene) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม ช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาทสายตา ผิวหนังที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่า สารในแครอทช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น

ขึ้นฉ่าย
ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความสะอาดเลือด และช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่าย ยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่ หรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ด้วย

พืชตระกูลถั่ว
เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วย พืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย

ทับทิม
ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามารถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในทับทิมมีสารแอสไพริน ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยาแก้ปวด ช่วยล้างพิษ ลดการติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบสำหรับผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูงซึ่ง ช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น

กระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดแบคทีเรีย และไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออก หรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้

เมล็ดแฟลกซ์
ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นอย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมองช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงขึ้น

มะนาว
เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้ว ดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอน จะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้ และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย

หัวหอม
ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LD ซึ่งไม่ดี เพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่


สาหร่าย
เป็นพืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้ามคุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่า สาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย ในปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่าง ๆ จากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ ซึ่งพลังงานความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้น และสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก

http://www.krotron.com/healthy/healthy_tip.php?healthy_tip=22

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

9 วิธีกินดีเพื่อสุขภาพ

       9 วิธีกินดีเพื่อสุขภาพ  
 

             ในประเทศไทย  กระทรวงสาธารณสุข  โดยกองโภชนาการ กรมอนามัย  ได้มี "ข้อแนะนำการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของคนไทย"  (Food Based Dietary Guildlines)  9 ข้อ  ดังนี้

    1.  กินอาหารครบ 5 หมู่  แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
   
ข้อแนะนำนี้เป็นข้อแนะนำหลัก  ยึดอาหารหลัก 5 หมู่  และเพิ่มความสำคัญของการกินอาหารแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย      ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด     น้ำหนักตัวเป็นเครื่องบ่งชี้อย่างง่ายถึงภาวะสุขภาพ  ในผู้ใหญ่ที่กินอาหารได้เหมาะสม  จะมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม  มีรูปร่างที่ไม่อ้วนหรือผอมเกินไปและมีน้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่  หากสังเกตเห็นว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากน้ำหนักปกติ  แสดงให้เห็นว่าเริ่มกินอาหารมากเกินไปแล้ว ควรจะต้องหันมาควบคุมลดปริมาณให้น้อยลง  โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เสื้อผ้าคับก่อนที่เริ่มรู้สึกตัวเพราะเสื้อผ้าสมัยใหม่มักนิยมใช้สายยืดเพื่อให้สวมใส่สบาย
หรือหากพบว่าน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ  ก็ควรต้องให้ความสนใจพร้อมทั้งสังเกตว่ามีการอ่อนเพลีย ง่วง ซึม หรืออาการที่แตกต่างไปจากปกติเกิดขึ้นด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการมากควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ  สำหรับเด็ก ร่างกายมีการเจริญเติบโต น้ำหนักตัวควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่เหมาะสม     ดังนั้น ควรหมั่นชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง
    2.  กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
   
เพื่อเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของคนไทย  จึงให้ความสำคัญกับการกินข้าวเป็นอาหารหลัก  ถ้าเป็นไปได้ ควรกินข้าวซ้อมมือ เพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว
   
ส่วนอาหารแป้ง เช่น ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ให้กินเป็นบางมื้อ  อาหารแป้งเป็นอาหารที่ผ่าน-การแปรรูป ใยอาหารจะมีน้อยกว่าในข้าว
 

    3.  กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ
   
อาหารหลัก 5 หมู่  ของไทยมีเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การจัดแยกพืชผัก และผลไม้เป็นอาหารหลักคนละหมู่  เนื่องจากประเทศไทยมีพืชผักและผลไม้อุดมสมบูรณ์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคได้ตลอดปี
   
พืชผักและผลไม้ให้สารอาหารที่สำคัญหลายชนิด คือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และให้สารอื่นที่มิใช่สารอาหาร เช่น
สารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์   ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์  ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส ไม่แก่เกินวัย  นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพ

    4.  กินปลา  เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน  ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
   
เป็นการกินอาหารที่ให้โปรตีน  โดยเน้นปลาและอาหารประเภทถั่วเมล็ดแห้ง เช่น เต้าหู้ชนิดต่างๆ  สำหรับเนื้อสัตว์ให้เลือกที่ไม่ติดมัน หรือที่มีมันน้อย ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ควรกินเป็นประจำ เด็กควรกินวันละฟอง  ผู้ใหญ่ภาวะปกติควรกินวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง ส่วนคนที่มีปัญหาภาวะโคเลสเตอรอลสูงในเลือดควรลดปริมาณลง
 
    5.  ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
   
บางคนอาจมองเห็นว่าน้ำนมเป็นอาหารของต่างชาติ  ไม่ควรส่งเสริมการบริโภค  น่าจะให้คนไทยไปบริโภคอาหารอย่างอื่นจะดีกว่า   อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาโดยรวม จะเห็นได้ว่าน้ำนมเป็นอาหารที่มีประโยชน์สมบูรณ์  เป็นแหล่งอาหารของโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 และแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้น้ำนมเป็นอาหารที่กินง่าย ราคาไม่แพงเกินไป มีหลายชนิดหาได้ทั่วไป จีงเป็นการสะดวกที่จะใช้เป็นอาหารสำหรับคนทุกวัย
   
ในกรณีที่ห่วงว่าคื่มนมมากๆ อาจทำให้อ้วน ผู้บริโภคสามารถเลือกดื่มนมพร่องไขมันได้ และในเวลาเดียวกันควรควบคุมปริมาณไขมันในอาหารชนิดอื่นด้วย เพราะเพียงไขมันจากน้ำนมอย่างเดียวไม่น่าที่จะทำให้เกิดโรคอ้วน
   
ปริมาณที่แนะนำคือ เด็กควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว   ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 แก้ว

    6.  กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
   
ถึงแม้ไขมันจะเกี่ยวข้องกับปัญหาโภชนาการ เช่น โรคอ้วน  ภาวะไขมันในเลือดสูงที่นำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือดได้  แต่ร่างกายต้องการไขมันเพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน  เพียงแต่จะต้องควบคุมปริมาณและชนิดของไขมันที่จะบริโภคให้เหมาะสม  ลดอาหารที่มีไขมันมาก เช่น หมูสามชั้น ขาหมูพะโล้
และอาหารที่ใช้น้ำมันหรือกะทิจำนวนมากในการประกอบอาหาร
    7.  หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด
   
ส่วนประกอบสำคัญของอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด  ได้แก่  น้ำตาล และเกลือแกง  ซึ่งส่วนประกอบทั้ง 2 ชนิดเมื่อบริโภคมากเกินไป  พบว่าเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง
   
วิธีปฏิบัตินอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัดแล้ว  ผู้บริโภคควรพยายามรับประทานอาหารที่มีรสธรรมดา  ไม่ควรที่จะต้องเติมน้ำตาลหรือเกลือเพิ่มเติมในอาหารที่ปรุงแล้ว หรือหันมากินอาหารแบบไทยเดิม ที่มีกับข้าวหลายชนิดเพื่อให้เกิดรสชาติที่หลากหลาย

    8.  กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน
   
การกินอาหารที่สะอาดนับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยลดอันตรายจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งอาจเป็นเชื้อโรค พยาธิ สารพิษ สิ่งแปลกปลอมต่างๆ ผู้บริโภคควรเลือกซื้ออาหารจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีการผลิตที่ถูกต้อง มีการเก็บรักษาที่เหมาะสม  อาหารสำเร็จรูปควรบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม สะอาด มีฉลากที่ถูกต้อง บอกวันหมดอายุ ส่วนประกอบ ชื่ออาหาร สถานที่ผลิต
   
นอกจากนี้ผู้บริโภคควรมีสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การใช้ช้อนกลาง
หรือใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหารมากกว่าการใช้มือ

9.  งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล

   
เมื่อดื่มมาก จะมีผลทำให้การทำงานของระบบสมองและประสาทช้าลง  ทำให้เกิดการขาดสติได้ง่าย  ที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ      เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคตับแข็งและการขาดสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด
   
ดังนั้นควรลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด

    ข้อแนะนำการบริโภคอาหารสำหรับคนไทยทั้ง 9 ข้อดังกล่าวข้างต้น  เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคชาวไทยทุกคน  เป็นการให้คำแนะนำในทางปฏิบัติได้ชัดเจนขึ้น
และมีความยืดหยุ่นในตัว  ที่แต่ละคนสามารถปรับให้เหมาะสมกับตนเองได้  เพื่อสุขภาพที่ดีถ้วนหน้า

          ที่มา :  http://www.nurse.cmu.ac.th/hf/nutrition1/nine.htm