ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

นวัตกรรม เปลี่ยนโลก พลิกชีวิต คูเน่ คู่ครัว คู่มื้อสุขภาพ คู่คุณ

นวัตกรรม เปลี่ยนโลก พลิกชีวิต คูเน่ คู่ครัว คู่มื้อสุขภาพ คู่คุณ



Kuu Ne คูเน่ นวัตกรรมผงปรุงครบรส เพื่อสุขภาพ 1 เดียวใน 5 ผลิตภัณฑ์ที่ ม.เกษตรศาสตร์ ส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรม  ได้รับการคัดเลือกให้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ Innovation Showcase ในงาน Thailand Innovation And Design Expo 2014 (TIDE ) 18-21 SEP 14 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ DITP  Kuu Ne ... Wealth Nutrition for Lively Health  
ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
คูเน่ ... โภชนาการคุณค่า เพื่อชีวิตที่ยืนยาว
www.ptpfoods.com
Lind ID : OatEcho   Mobile : 086-791 7007  คมชาญ
ผลิตภัณฑ์คูเน่ ช่วยป้องกันไม่ใช่ยารักษา หากว่าเป็นโรคไต ต้องควบคุมอาหาร โดยเฉพาะโซเดียม ซึ่งผู้บริโภคกินเกินจนคุ้นชินลิ้น กระทั่งเป็นโรคแล้วจึงค่อยมาเยียวยา ทั้งที่ผู้บริโภคไม่ได้เป็นคนเลือกเลย ตามที่ รพ.ใช้คูเน่กับผู้ป่วยโรคไต ก็จะใช้ลดปริมาณมาตรฐานจากเดิม 1 ช้อนชาต่อ 1 ชาม/จาน ก็ลดคูเน่ลงเหลือเพียง 1/2 หรือ 1/3 ช้อนชา ตามแต่ผู้ป่วยที่ต้องควบคุมโซเดียมมากน้อย แต่ก็ช่วยให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเก๊าท์ โรคภูมิแพ้ ... ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยที่ยังควบคุมสารอาหารโดยรวมได้ดี
บังเอิญช่วงที่ผ่านมาต้องไปติดต่องานภายนอก กลับเข้ามาสำนักงาน ประหลาดใจ คิดว่าเครื่องโทรสาร Error ทำงานไม่หยุด ที่แท้มี PO เข้ามาเพียบอย่างต่อเนื่องยาวเกือบ 3 เมตร สั่งซื้อ Kuu Chef (ชนิด kg) ซึ่งได้ผ่านการทดสอบและคัดสรรจาก Exexutive Chef และ Sous Chef จากห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ใช้ประกอบอาหารเป็นผลิตภัณฑ์ซุปข้นหลากหลายชนิดกว่า 20 เมนู ซึ่งได้รับความนิยม และขายดี ผลิตใหม่ทุกวัน ขอขอบคุณที่ท่านได้เลือกคุณค่าคัดสรรตั้งแต่ต้นทางกระทั่งส่งมอบให้ผู้บริโภค ด้วยแนวคิด ลูกค้าคุณ ... ลูกค้าเรา สร้างคุณค่าร่วมกัน อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข



ขออนุญาตแบ่งปันส่วนหนึ่งของลูกค้าที่มีจดหมายส่งมา

Saowapha Thamsuruk SaowaphaT@sprc.co.th  Jul 30, 2014
เรียน คุณคมชาญ
จะสอบถามว่า เราสามารถซื้อขนาด 1 กิโลได้ไหม โดยไม่ต้องซื้อทั้ง pack  5 กิโล ค่ะ  เพราะว่าชอบมาก แต่ก่อนเป็นภูมิแพ้ ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร ลองเปลี่ยนมาใช้ คูเน่แทน ต้องแต่นั้นเป็นต้นมา ภูมิแพ้ก็หายไปเลยค่ะ

Komcharn Ektechavut komcharne@gmail.com  Jul 30, 2014
เรียน คุณเสาวภา
       ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีด้วยที่สามารถค้นพบตัวเองแล้วหายขาดจากภูมิแพ้ ด้วย Kuu Ne คูเน่ ผงปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ยังไงก็หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยครับสุขภาพจะดีและแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น
ที่สอบถามราคาชนิด กก. ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโรงพยาบาลที่ใช้ แต่สำหรับคุณผมคิด 750.- ค่าขนส่งพัสดุไปรษณีย์ 100.-  โอนเงินธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 3522218811 ชื่อบัญชี นายคมชาญ เอกเตชวุฒิ เมื่อโอนแล้ว ส่ง SMS หรือโทรแจ้งชื่อที่อยู่ในการจัดส่งสินค้าให้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
คมชาญ
0867917007

Saowapha Thamsuruk SaowaphaT@sprc.co.th  Jul 31, 2014

โอนเงินให้แล้วค่ะ และส่ง sms ไปให้ล้ว ค่ะ

Best Regards,
Saowapha Thamsuruk (AOR)
Star Petroleum Refining Public Co., Ltd,
No.1, I-3B Road, Map Ta Phut,
Muang, Rayong 21150
Tel. 038-699-959

email: saowaphat@sprc.co.th
..................................................................................................................................................................

Suvimon Thepmalee อยากทราบว่าคนที่มีโรคไตเรื้อรังและตับทานได้รึเปล่าคะ

ผลิตภัณฑ์คูเน่ ช่วยป้องกันไม่ใช่ยารักษา หากว่าเป็นโรคไต ต้องควบคุมอาหาร โดยเฉพาะโซเดียม ซึ่งผู้บริโภคกินเกินจนคุ้นชินลิ้น กระทั่งเป็นโรคแล้วจึงค่อยมาเยียวยา ทั้งที่ผู้บริโภคไม่ได้เป็นคนเลือกเลย อ้างอิงตามที่กลุ่ม รพ.ใช้คูเน่กับผู้ป่วยโรคไต ก็จะใช้ลดปริมาณมาตรฐานจากเดิม 1 ช้อนชาต่อ 1 ชาม/จาน ก็ลดคูเน่ลงเหลือเพียง 1/2 หรือ 1/3 ช้อนชา ตามแต่ผู้ป่วยที่ต้องควบคุมโซเดียมมากน้อย แต่ก็ช่วยให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเก๊าท์ โรคภูมิแพ้ ... ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยที่ยังควบคุมอาหารโดยรวมได้ดี

#คูเน่ #คูเชฟ #kuune #kuuchef #นวัตกรรมเปลี่ยนโลก #พลิกชีวิต #สุขภาพ #โซเดียมต่ำ #โรคไต #เบาหวาน #ความดัน #หัวใจ #มะเร็ง #เก๊าท์ #ภูมแพ้ #หอมหัวใหญ่ #innovation #showcase #executive #sous #chef
..................................................................................................................................................................

Kuu Ne คูเน่ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน วิจัย...พลิกชีวิต
http://youtu.be/R9DSPPhfhag

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

แบคทีเรีย ช่วยอ้วน กับ แบคทีเรีย ช่วยผอม




เป็นที่ทราบกันดีในปัจจุบันว่า โรคอ้วน เป็นผลลัพธ์จากการสู้รบปรบมือระว่างพันธุกรรมกับการเลือกใช้ชีวิต บางคนมีพันธุกรรมยีนอ้วน แต่รู้จักเลือกกินแบบคนผอม อยู่แบบคนผอม ก็ดูแลทรวดทรงให้ผอมเพรียวได้ ในขณะที่บางคนไม่มียีนอ้วน แต่อ้วนเพราะทำตัวเองคือ เลือกที่จะกินแบบคนอ้วน อยู่แบบคนอ้วน ก็อ้วนได้แบบไม่ต้องพยายาม

ปัจจัยที่ส่งผลให้เราอ้วนหรือผอมนั้นลึกล้ำซับซ้อนซ่อนเงื่อน ราวกับนิยายสืบสวน ผู้ร้ายคนแล้วคนเล่าถูกเผยโฉมว่ามีส่วนที่จะทำให้เราอ้วนง่ายหรืออ้วนยาก และผู้ร้ายตัวล่าสุดที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมานี้คือ แบคทีเรียตัวน้อยที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของพวกเราเอง

ในลำไส้ใหญ่ของพวกเราทุกคน จะมีแบคทีเรียเพื่อนยากที่อาศัยกินอยู่หลับนอน เป็นเพื่อนตัวน้อยในตัวเรา คอยช่วยย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอื่นๆ อีกมากมายหลายหน้าที่ตามประสาเพื่อนที่ดี ประชากรแบคทีเรียเหล่านี้มีหลากหลายสายพันธุ์ สิ่งที่น่าสนใจคือ นักวิจัยพบว่าในลำไส้ของคนอ้วน มีแนวโน้มที่จะมีประชากรแบคทีเรียในตระกูล Firmicutes โดดเด่น เมื่อสืบต่อไปก็พบว่า แบคทีเรีย Firmicutes นี้ ส่งผลเพิ่มการดูดซึมของสารอาหารประเภทไขมัน นั่นคือ กินเท่าคนอื่น แต่ดูดซึมแคลอรี่ได้ดีกว่าคนอื่น จึงส่งผลให้คนที่มีแบคทีเรียตัวอ้วนนี้ อ้วนง่ายกว่าคนที่ไม่มีแบคทีเรียตัวอ้วนนี้โดดเด่น

เมื่อมีตัวร้ายก็ต้องมีพระเอก พบว่าในคนผอม จะมีแบคทีเรียอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า Bacteroidetes เด่น แบคทีเรียกลุ่มนี้จึงถูกจัดเป็นแบคทีเรียช่วยผอม พบว่าการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหาร และพรีไบโอติกสูง (พรีไบโอติกคืออาหารของเหล่าแบคทีเรียดีในลำไส้) จะช่วยเพิ่มปริมาณประชากรแบคทีเรียช่วยผอมได้

อาหารที่จัดว่าโดดเด่นในการเลี้ยงดูแบคทีเรียช่วยผอมได้แก่ #กระเทียม #หัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียมต้น โยเกิร์ต กล้วย เบอรี่ และถั่วต่างๆ

หมอพูดเสมอว่า "ผอมได้ไม่ต้องอด" และ "เลิกลดแล้วจะผอม" เพราะจริงๆแล้ว การลดน้ำหนักไม่ใช่การอดอาหาร หรือการลดให้รู้สึกอดๆ อยากๆ หากแต่อยู่ที่การเลือกรับประทานอาหารแบบคนผอม อยู่แบบคนผอม นอนแบบคนผอม รวมถึงเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเลี้ยงดูแบคทีเรียช่วยผอม ดังที่เล่าให้ฟังในบทความนี้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง) บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ในชุดโครงการ “รวมพลัง ขยับกาย สร้างสังคมไทย ไร้พุง” เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

สนับสนุนโดย Kuu Ne คูเน่ ... โภชนาการคุณค่า เพื่อชีวิตที่ยืนยาว
www.ptpfoods.com,  www.facebook.com/kuunepage

เคล็ดลับ เลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ


เคล็ดลับ เลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ


การรู้จักเลือกรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสุขภาพเท่านั้น หากยังเอื้อต่อความสวยความงามอีกด้วย ความจริงการเลือกอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีได้ เพราะในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันในด้านพัฒนาการของร่างกายและลักษณะการดำเนินชีวิต วันนี้จึงขอเสนอเรื่องราวของอาหารที่เกี่ยวข้องกับช่วงอายุทั้ง 4ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดที่คุณจะลองทำตาม


วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 2ช่วงอายุตั้งแต่ 20ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่ร่างกายมีการพัฒนาและเติบโตเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน และเป็นวัยที่ใช้ชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งมีการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญและใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเลือกรับประทานจำพวกเนื้อสัตว์และถั่วต่างๆ รวมถึงข้าวและแป้งมากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยผักผลไม้เป็นอันดับสอง ส่วนนมและอาหารทดแทนแคลเซียมต่างๆ เช่น เต้าหู้ ปลาเล็กปลาน้อย นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม ตามมาเป็นอันดับสาม และให้ความสำคัญของไขมันเป็นอันดับสุดท้าย ปลาเป็นอาหารสมองที่ช่วยรักษาผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ไม่หลงลืมอะไรง่ายๆ ผักสีเขียวอย่างผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ช่วยบำรุงสายตา สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ผักผลไม้สีเหลืองอย่างกล้วยหอมก็ถือเป็นผลไม้คลายเครียดชนิดหนึ่ง

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3อายุขึ้นเลข 3หลายคนเริ่มตกใจกลัว แต่การรู้จักเลือกรับประทานจะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเดาอายุคุณจากรูปร่างหน้าตาได้เลย ในช่วงเริ่มวัยผู้ใหญ่ความต้องการพลังงานยังคงอยู่ เพราะเป็นช่วงชีวิตของการทำงาน แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของไขมันและโคเลสเตอรอลที่จะส่งผลกระทบกับรูปร่างหน้าตาภายนอกที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตด้วย เพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอลสูง เช่น หมูสามชั้น เนยแข็ง กะทิ เนยเทียม เป็นต้น จะสร้างปัญหาให้หลอดเลือดและหัวใจ แต่คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอล เช่น ปลาทะเล ช่วยลดความดันโลหิต พวกถั่วเมล็ดแห้งอย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ และมีโปรตีนสูงเพื่อให้พลังงานแทนสัตว์ใหญ่ได้อีก อาหารจำพวกข้าว ธัญพืชไม่ขัดสี อย่างข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท มีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนานและส่งผลดีต่อระบบลำไส้

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 4วัยทองถูกเรียกแทนวัย 40ปีขึ้นไป เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้หญิง ส่วนผู้ชายวัยนี้ก็จะเริ่มมีโรคต่างๆที่ไม่เคยออกอาการ ซึ่งเรียกกันว่าเป็น “วิถีทางธรรมชาติ” แต่ทั้งนี้การชะลอวัยหรือป้องกันโรคต่างๆที่มากับวัยไม่ได้ยุ่งยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ สำหรับช่วงวัยนี้ความต้องการพลังงานจะลดลง แต่ความต้องการแคลเซียมและวิตามินต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้รับจากผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง แล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีจากอาหารที่หารับประทานได้ง่าย เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ แคนตาลูป ส่วนอาหารที่มีวิตามินอี ได้แก่ น้ำมันพืช เนยถั่ว ถั่วลิสง อัลมอนด์ นอกจากนี้ควรรับประทานเต้าหู้ โปรตีนไขมันต่ำ ซึ่งให้แคลเซียมมากกว่าเนื้อสัตว์อย่างอื่น แต่ไม่ควรลืมหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวเร่งความแก่ให้เร็วขึ้น เช่น อาหารไขมันสูงประเภททอดกรอบหรือผัดน้ำมันมากๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มกาเฟอีนทั้งหลาย

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5การก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 50เป็นต้นไปนั้นไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวัยนี้คุณควรเข้าใจการทำงานของร่างกายที่มีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะระบบการย่อยการดูดซึมอาหาร ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง ช่วงนี้คุณอาจไม่รู้สึกกระหายน้ำเท่าไหร่ แต่ควรดื่มน้ำให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 8-12แก้ว เพื่อป้องกันการขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงและพยายามเลือกชนิดไม่ขัดสี เน้นอาหารจำพวกปลาเพื่อไม่ให้ขาดโปรตีน ที่สำคัญคือเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย

วัยนี้จะพบปัญหากระดูกเปราะ กระดูกพรุนอย่างชัดเจน ดังนั้น ควรได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ อาหารแคลเซียมสูงอยู่ในนม โยเกิร์ตชนิดครีม เนยแข็ง หรือแม้แต่ปลาตัวเล็กตัวน้อย พวกผักใบเขียวก็มี เช่น คะน้า กวางตุ้ง และบรอกโคลี จะช่วยลดปัญหาเรื่องกระดูกให้รุนแรงน้อยลง การแก้ไขภาวะขาดน้ำอาจให้ดื่มน้ำสมุนไพร เช่น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย น้ำใบเตย นอกเหนือจากน้ำเปล่า เพราะช่วยบรรเทาโรคบางอย่างและให้ประโยชน์กว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดควรดูแลเรื่องการกินอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือไม่ก็ตาม เพราะคนส่วนใหญ่มักจะดูแลตัวเองเมื่อพบว่าตัวเองมีโรคหรือมีปัญหาสุขภาพแล้วเท่านั้น นอกจากนี้การเพิ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวระหว่างวันให้มาก ทำบ่อยๆจนติดเป็นนิสัย จะช่วยให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์ด้านระบบการไหลเวียนเลือด ควบคุมน้ำหนักตัว และลดความเครียดของร่างกายได้
 
ที่มา: thaihealth.or.th

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

พบคนไทยมีแนวโน้มอ้วน น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เป็นอันดับ 2 อาเซียน

เผยคนไทยมีแนวโน้มอ้วนมากขึ้น น้ำหนักเกินจากพฤติกรรมการบริโภค เป็นอันดับ 2 ในอาเซียนรองจากมาเลเซีย คนกรุงมีแนวโน้มโรคอ้วนรุนแรงมากสุด ต่ำที่สุดคืออีสาน

พบคนไทยมีแนวโน้มอ้วน น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

สำนักข่าวไทย 17 มิ.ย.-ในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ #เผยคนไทยมีแนวโน้มอ้วนมากขึ้น น้ำหนักเกิน มาจากพฤติกรรมการบริโภค เป็นอันดับ 2 ในอาเซียนรองจากมาเลเซีย คน กทม.มีแนวโน้มโรคอ้วนรุนแรงมากสุด ต่ำที่สุดคืออีสาน
ดร.ศิรินา ปวโรฬารวิทยา ประธานกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เปิดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2557 ที่อิมแพคเมืองทองธานี พร้อมอบรางวัล 1 จังหวัด 1 พื้นที่ ที่นำกระบวนการสมัชชาสุขภาพ แก่ สมัชชาจังหวัดปัตตานี ธรรมนูญสุขภาพ จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดน่าน

ส่วนการคาดการณ์แนวโน้มสุขภาพคนไทยปี 2557 #พบคนไทยมีแนวโน้มอ้วนมากขึ้น #น้ำหนักเกิน ที่มาจากพฤติกรรมการบริโภค เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จากข้อมูลปี 2552 พบว่าในเขต กทม. มีแนวโน้มโรคอ้วนรุนแรงมากที่สุด ต่ำที่สุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สะท้อนว่าโรคอ้วนเกิดในคนเมือง ฐานะดี รายได้สูง มากกว่าคนชนบท และเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคอาเซียน #พบว่าไทยมีคนอ้วนมากเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน รองจากมาเลเซีย.-สำนักข่าวไทย
ที่่มา : http://www.mcot.net/site/content?id=539fc48abe0470d4eb8b456b#.VBEubPmSzg8

เผยรายงานสุขภาพคนไทยปี 57 พบคนไทยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 2 ทศวรรษ เทียบ 10 ประเทศในเอเชีย ชายไทยอยู่ในอันดับ 4 หญิงอันดับ 2 นำสู่โรคเรื้อรัง...สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เเปิดเผย "รายงานสุขภาพคนไทย 2557" สะท้อนให้เห็นถึงภัยคุกคามสุขภาวะที่สำคัญในปีนี้ คือภาวะ "โรคอ้วน" ที่กำลังบั่นทอนสุขภาพคนไทยมากขึ้นดร.ชื่นฤทัย กาญจนจิตรา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า #ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน เกิดจากสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่แย่ลง ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลทางร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะ #พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ อาทิ #อาหารฟาสต์ฟู้ด น้ำอัดลม และอาหารที่ขาดคุณค่าทางโภชนาการในโรงเรียน ฯลฯ รวมถึงการมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบแบบคนเมือง มีกิจกรรมทางร่างกายลดลง และการใช้เวลากับสื่อออนไลน์มากขึ้น เป็นต้น
 “ปัญหาขณะนี้คือเรามีสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เป็นสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการออกกำลังกาย และสิ่งแวดล้อมในการบริโภคอาหาร ซึ่งต้องปรับปรุงกันอย่างเร่งด่วนต่อไป ไม่เช่นนั้นปัญหาโรคอ้วนจะมีมากขึ้น เพราะ ณ ขณะนี้ประเทศไทยพบคนเป็นโรคอ้วน ในอันดับต้นๆ ของอาเซียนแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงจะมีปัญหานี้ได้ง่ายที่สุด"รายงานสุขภาพคนไทย ปี 2557 ระบุว่า โรคอ้วนถือเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวันอันควร จาก #โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable Diseases : #NCDs) อาทิ #เบาหวาน #ความดันโลหิตสูง #โรคตับ #โรคมะเร็ง #โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี #โรคซึมเศร้า #ภาวะหายใจลำบากและหยุดหายใจขณะหลับ และ #โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นต้น โดยคนอ้วนมีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้มากกว่าปกติ 2-3 เท่านอกจากนี้ ภาวะโรคอ้วนในประเทศไทย มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต จากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายในปี 2552 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมากกว่า 1 ใน 3 อยู่ในภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว เมื่อเทียบกับในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา (ปี 2534-2552) และหากเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคพบว่า คนไทยอ้วนสูงสุดเป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 10 ประเทศอาเซียน รองจากมาเลเซียเท่านั้นขณะเดียวกัน ยังพบเด็กอ้วนตั้งแต่ในระดับปฐมวัย (อายุ 1-5 ปี) และวัยเรียน (อายุ 6-14 ปี) ขยายตัวมากจนน่าเป็นห่วง คือเด็กนักเรียนทุกๆ 10 คน จะพบผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนอย่างน้อย 1 คนสถานการณ์โรคอ้วน มีความรุนแรงแตกต่างไปในแต่ละภูมิภาค เพิ่มขึ้นตามระดับการพัฒนาและฐานะทางเศรษฐกิจ โดยอัตราสูงสุดอยู่ในเขต กรุงเทพมหานคร และต่ำสุดใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จากการศึกษาภาวะโรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกิน ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ พบว่า ในประเทศกำลังพัฒนาโรคอ้วนจะเกิดมากในเขตคนเมือง ครอบครัวที่มีฐานะ และผู้ที่มีรายได้สูง มากกว่าคนในชนบท แต่เมื่อประเทศนั้นๆ มีการยกระดับการพัฒนาสูงขึ้น เศรษฐกิจเติบโต ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและรายได้ดีขึ้น สถานการณ์กลับตรงกันข้าม เพราะกลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคอ้วนจะกลายเป็นกลุ่มคนจน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีทางเลือกในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพได้น้อยกว่า ขณะที่อาหารฟาสต์ฟู้ด อหารจานด่วน มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำแต่ให้พลังงานสูง จะมีราคาถูกลง ทำให้คนจนมีโอกาสซื้อได้เพิ่มขึ้น แต่คนรวยจะหันมาเลือกซื้ออาหารที่ดีกับสุขภาพและป้องกันโรคได้ดีกว่า ดังนั้น การจัดการกับโรคอ้วนจึงไม่สามารถแก้ปัญหาที่ปลายทางหรือส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องแก้ไขในระดับโครงสร้าง ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจด้วย.
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/430573

ภาครัฐสนับสนุนให้ประชาชนใช้หลัก 3 อ. 

1.เลือกกินอาหาร 2.อารมณ์ดี 3.ออกกำลังกาย

หากว่าท่านต้องการความสะดวกมากขึ้น ขอแนะนำ Kuu Ne อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาล เร่งการเผาผลาญ ผลิตจากธรรมชาติ 100% ติดตามได้ที่

http://www.ptpfoods.com/2014/07/kuu-ne-fit-firm.html


มีจิตใจที่แน่วแน่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ทำกิจกรรมงานบ้าน สนุกสนานกับครอบครัวและคนรอบข้างพร้อมๆกับการเสริมอาหารแร่ธาตุวิตามินจากธรรมชาติ สิ่งที่ยากไม่เคยทำได้ก็เป็นจริง