ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อาหารชะลอแก่...

โดย : First Magazine ถ้ามีใครสักคนเดินปรี่เข้ามาทักเราว่า ดูสาวขึ้นหรือหนุ่มขึ้น คุณเอ๊ย! รับรองได้ว่าวันนั้นนั่งปลื้มไปทั้งวัน ...
การชะลอวัยนั้นไม่ได้เกินความสามารถที่คนเราจะควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นหรือโรคที่มากับวัย เช่น โรคความจำเสื่อม โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคกระดูกพรุน ซึ่งคนเรามักจะคิดว่าเป็นผลพวงที่เกิดจากความแก่ แต่ความจริงที่ถูกมองข้ามก็คือ โรคเหล่านี้เป็นผลจากวิถีการดำเนินชีวิตที่ผิด มากกว่าจะมาจากความแก่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ฉะนั้น การหวนกลับมาจัดการกับวิถีชีวิต จึงเป็นหนทางชะลอความชราที่ดีที่สุด

จงใช้อาหารเป็นยา

อาหารที่เราเลือกบริโภคในชีวิตประจำวัน มีความสำคัญเท่าๆ กับการออกกำลังกาย ครีมกันแดดที่เราเลือกเพื่อป้องกันความเสื่อมของผิว และวิธีการป้องกันอื่นๆ ที่จะช่วยชะลอวัย ผัก ผลไม้ เป็นยาต้านความแก่ที่วิเศษที่สุด ผู้ที่รับประทานผักผลไม้มากๆ นอกจากจะแก่ช้าแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ได้น้อยกว่าผู้ที่กินแต่เนื้อสัตว์และไขมันมาก ซึ่งนักวิจัยยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง

ในผักผลไม้มีอะไรดีอย่างนั้นหรือ

• ผักผลไม้ส่วนใหญ่ ยกเว้นมะพร้าว มะกอก และผลอะโวคาโด ไม่มีไขมัน ไม่มีคอเลสเตอรอล และมีโซเดียม (เกลือ) น้อย ยกเว้นของหมักดอง โซเดียมเป็นองค์ประกอบของเกลือ ถ้าบริโภคมากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงและโรคมะเร็ง

• ผักผลไม้มีกากใยอาหารสูง ช่วยลดความเสี่ยงโรคที่มากับวัย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีพลังงานต่ำ ทำให้อิ่มง่าย จึงลดปริมาณอาหารที่จะกินให้น้อยลง ร่างกายคนเราต้องการกากใยอาหารในการช่วยรักษาสุขภาพวันละ 25-30 กรัม ซึ่งทำได้ไม่ยาก ถ้าคุณเลือกบริโภคผักผลไม้วันละ 3-4 อย่าง อย่างละขนาดเท่าลูกเทนนิส และบริโภคผักสดขนาดเท่ากับ 4 ถ้วย (ข้าวต้ม) หรือผักสุก 4 ทัพพี หรือจะผสมกันอย่างละครึ่งก็ยิ่งดี

• ผักผลไม้มีสารอาหารมากมายที่ช่วยชะลอความแก่ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีนหรือแคโรทีนอยด์ อนุมูลอิสระเป็นสารที่เร่งความเสื่อมของวัย สารอาหารดังกล่าวจะช่วยลดฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ

• ผักผลไม้อุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม กรดโฟลิก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แคลเซียมและแมกนีเซียมช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ธาตุเหล็กและกรดโฟลิกช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโลหิตจาง นอกจากนี้ กรดโฟลิกยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและป้องกันโรคสมองเสื่อม

• ผักและผลไม้ให้พลังงานต่ำ โดยเฉพาะผัก ผักสลัดหนึ่งชามพูนให้พลังงานเพียง 30 กิโลแคลอรี่ แต่ต้องระวังน้ำสลัดซึ่งให้พลังงานสูง เพราะน้ำสลัดข้นแค่เพียง 1 ช้อนโต๊ะ ก็ให้พลังงานถึง 75-100 กิโลแคลอรี่เข้าไปแล้ว

• ผักผลไม้มีสารต้านมะเร็งเฉพาะตัวที่เรียกว่า สารพฤกษเคมี (Phytochemical) ผักผลไม้ต่างชนิดกันก็มีสารพฤกษเคมีแตกต่างกันไปหลายพันชนิด การบริโภคผักและผลไม้ให้หลากหลายจะช่วยให้ได้สารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อ สุขภาพ

หลีกเลี่ยงอาหารเร่งแก่!

มีอาหารหลายอย่างที่เราๆ ท่านๆ โปรดปราน โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำให้แก่เร็วขึ้น อาหารดังกล่าวประกอบไปด้วย

1. อาหารไขมันสูง

โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว (ไขมันจากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์ ช็อกโกแลต กะทิ) การบริโภคอาหารทอดกรอบ อาหารผัดที่มันมาก และน้ำมันพืชซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (polyunsaturated fatty acid) ในปริมาณมากๆ มีผลในการเพิ่มอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอร์สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้ และยังลดการดูดซึมของเกลือแร่และวิตามินในร่างกาย โดยเฉพาะแคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้แอลกอฮอร์ยังก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เร่งความแก่ให้มาเยือนก่อนเวลาอันควร

3. เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

ได้แก่ ชา กาแฟ ซึ่งจะลดการดูดซึมวิตามินบีและแคลเซียมในร่างกาย

4. อาหารหมักดองและอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ

เช่น สารตะกั่วและเชื้อแบคทีเรียในอาหารที่ขายตามริมถนนและไม่มีภาชนะปิด เป็นบ่อเกิดของอนุมูลอิสระ บั่นทอนสุขภาพและก่อให้เกิดโรคมะเร็ง อาหารปิ้งย่างที่มีเขม่าไฟติดหรือเกรียมไหม้ มีสารก่อให้เกิดมะเร็งที่มีชื่อว่า เบนโซไพรีน (benzopyrene)

5. อาหารทอดด้วยน้ำมันซ้ำซาก

เช่น ปาท่องโก๋ ปลาทอด ทอดมัน ไก่ทอด เป็นต้น น้ำมันที่ทอดอาหารซ้ำแล้วซ้ำอีกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและสารก่อมะเร็ง

สรุปวิธีการกินให้อ่อนวัยนั้นไม่ยาก ถ้าปฏิบัติดังนี้

• จำกัดอาหารประเภทไขมันและน้ำตาล

• บริโภคข้าวซ้อมมือเป็นประจำ

• เลือกผลิตภัณฑ์ข้าวที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยสุด

• บริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา และดื่มนมขาดไขมันหรือนมพร่องไขมันเป็นประจำ

• ระวังปริมาณในการบริโภค อย่าเพลินกับความอร่อยจนลืมตัว

• เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

• เสริมวิตามินรวมวันละ 1 เม็ด และวิตามินอีวันละ 100-400 ไอยู

นอกจากเรื่องการกินแล้ว สิ่งสำคัญควบคู่กันไปก็คือ ไม่ลืมที่จะออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส ลดละความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ คุณก็จะดูอ่อนกว่าวัยได้แล้ว

หอมหัวใหญ่ แก้หวัด

“หอมหัวใหญ่” แก้หวัด
สสส. (22,882 views) first post: Thu 21 October 2010 last update: Thu 21 October 2010
พืชผักสมุนไพรที่หลายคนมองข้ามด้วยความไม่รู้คุณค่าอันมหาศาล แถมยังเขี่ยทิ้งจากจานเสมอๆ ก็คือ “หอมหัวใหญ่” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “หอมใหญ่”
อีกหนึ่งพืชผักสมุนไพรที่หลายคนมองข้ามด้วยความไม่รู้คุณค่าอันมหาศาล แถมยังเขี่ยทิ้งจากจานเสมอๆ ก็คือ “หอมหัวใหญ่” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “หอมใหญ่” ซึ่งมีการปลูกมาตั้งแต่ยุคโบราณในอียิปต์ กรีก โรมัน และจีน ปัจจุบันหอมใหญ่จัดเป็นผักสำคัญลำดับที่ 6 ของโลก

หอมใหญ่ ไม่ใช่แค่ผักธรรมดาที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ และไม่ได้ใหญ่แต่ชื่อและขนาด แต่สรรพคุณยังยิ่งใหญ่ด้วย เพราะช่วยป้องกันและรักษา โรคสำคัญๆ ได้หลายโรค ทั้งแพทย์และนักวิชาการได้ทำการวิเคราะห์หาสารสำคัญในหัวหอม พบว่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารประกอบที่จำเป็นต่อร่างกายกว่า 300 ชนิด อาทิ แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซีลีเนียม เบตาแคโรทีน กรดโฟลิก เควอซิทินฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ เพคติน กลูโคคินิน ฯลฯ

โดยแคลเซียมจะสังเคราะห์เอนไซม์ที่ ที - เซลล์ (T-cells) มาใช้ในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมและช่วยเม็ดเลือดขาวใน การทำลายและย่อยสลายไวรัส ธาตุแมกนีเซียมจะช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและ กำจัดไวรัส ธาตุกำมะถันช่วยให้เอนไซม์ตับทำงานขับสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ส่วนสารเควอซิทินเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ให้ฤทธิ์ในการป้องกันการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ป้องกันอาการแพ้ ขับสารพิษ ป้องกันไม่ให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดและปกป้องหลอดเลือดเลี้ยงสมองอุดตัน และลดการเป็นพิษต่อเซลล์ไขมันในเลือดชนิดเลว (LDL)

นอกจากนี้ หอมใหญ่ยังมีสารไซโคลอัลลิอินที่สามารถละลายลิ่มเลือด ช่วยในการลดโคเลสเตอรอลและความดันเลือด รวมทั้งสารฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไขมันไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเลือด เพราะหากเกาะมากๆ จะเกิดภาวะเส้นโลหิตอุดตัน ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ และสารอัลลิลโพรพิลไดซัลไฟด์ ที่ช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงสารอัลลิลิกไดซัลไฟด์ ที่ช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ

ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา พบว่า หอมหัวใหญ่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งตับและลำไส้ได้ เพราะในหัวหอมจะมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์สูงมาก จึงช่วยป้องกันและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

ดร.วิคเตอร์ เกอร์วิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจในสหรัฐอเมริกา บอกไว้ว่า หัวหอมสดถือเป็นยาชั้นเลิศในการเพิ่มไขมันในเลือดชนิดดี (HDL) แค่หอมหัวใหญ่ครึ่งหัวจะช่วยเพิ่ม HDL ได้ถึงร้อยละ 30 ในคนที่เป็นโรคหัวใจ หรือมีปัญหาโคเลสเตอรอล

ส่วนผลการวิจัยในวารสารวิชาการ “Nature” ระบุว่า หอมหัวใหญ่ป้องกันกระดูกพรุนได้ผลดีกว่าแคลซิโทนิน ซึ่งเป็นยารักษาโรคกระดูกพรุนโดยเฉพาะ โดยสรรพคุณของหอมใหญ่จากการทดลองในหนู เกิดได้ภายใน 12 ชม. นักวิจัยจึงลงความเห็นว่า สำหรับคนเราอาจต้องกินหอมใหญ่วันละ 200-300 กรัม จึงจะได้ผลในการป้องกันกระดูกพรุน

โดยในหอมหัวใหญ่ 100 กรัม ให้พลังงาน 38 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย แคลเซียม 30 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 44 มิลลิกรัม เหล็ก 1.0 มิลลิกรัม วิตามินบีหนึ่ง 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.05 มิลลิกรัม และวิตามินบีหก 0.1 มิลลิกรัม

กล่าวโดยสรุปแล้ว การรับประทานหอมใหญ่ทำให้เจริญอาหาร แก้หวัด คัดจมูก แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องร่วง ธาตุไม่ปกติ ช่วยขับปัสสาวะ ลดไขมันในเส้นเลือด แก้ความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ ขับพยาธิ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดโคเลสเตอรอล ในเลือด แก้ภูมิแพ้หอบหืด เบาหวาน ฆ่าเชื้อโรค ช่วยขจัดสารตะกั่วและโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับอาหารแล้วสะสมอยู่ในร่างกาย ฯลฯ และยังช่วยให้ผู้ที่รับประทานเป็นประจำ มีความจำดีขึ้นด้วย แต่ต้องรับประทานแบบสดๆทุกวัน (ทานร่วมกับอาหารอื่นๆ ก็ได้) แค่วันละครึ่งถึง 1 หัว อย่างน้อย 2 เดือนจึงจะเห็นผล โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเบาหวานและโคเลสเตอรอลสูง

แต่อย่ารับประทานในขณะที่ท้องว่าง เพราะอาจจะทำให้เยื่อบุกระเพาะระคายเคืองหรืออักเสบได้ และหากผู้ที่มีกลิ่นตัวอยู่แล้ว หากรับประทานมากเกินไป ก็จะส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวแรงยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแต่รับประทานหอมใหญ่แล้วมีประโยชน์สูง แต่สารในหอมใหญ่ยังสามารถสกัดมาผสมในเครื่องสำอางได้ เช่น แชมพูสระผม ยาบำรุงเส้นผม เพราะมีสาร เช่น ไกลโคไซด์ เพคติน กลูโคคินิน ที่ช่วยในการขจัดรังแค ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราต่างๆ และน้ำคั้นจากหัวหอมยังนำมาใช้เป็นยาทาภายนอก เพื่อลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้พิษแมลงกัดต่อย อาการปวดบวมตามข้อรักษาผิวหนังที่ถูกน้ำร้อนลวกได้อีกด้วย
เคล็ด(ไม่ลับ) เกี่ยวกับหอมใหญ่ วิธีเลือกซื้อ : หอมหัวใหญ่ที่มีคุณภาพดีนั้นจะต้องมีน้ำหนักมาก ผิวแห้งและเรียบซึ่งจะทำให้เก็บได้นานขึ้น

วิธีเก็บ ให้อยู่ได้นาน : หากซื้อมาแล้วรับประทานไม่หมด หอมใหญ่มักจะเน่าเสียเร็ว ดังนั้นวิธีการยืดอายุของหอมใหญ่ให้อยู่ได้นานมีหลายวิธีให้ลองเลือกใช้ เช่น นำหอมหัวใหญ่ห่อกระดาษ ใส่ลงในถุงพลาสติกอีกชั้นแล้วจึงนำไปแช่ตู้เย็น หรือใช้กระดาษฟอยล์ห่อหอมหัวใหญ่ทีละลูกแยกกันแล้วแช่ตู้เย็น ซึ่งจะทำให้หอมหัวใหญ่คงกรอบและผิวไม่ช้ำ

วิธีหั่นหอมใหญ่ไม่ให้แสบตา : เหตุที่หั่นหอมใหญ่แล้วแสบตาจนน้ำตาไหล เพราะในหัวหอมมีสารประกอบของซัลเฟอร์หรือกำมะถัน เมื่อเราหั่นหัวหอมสารนี้ก็จะกระจายออกมาในอากาศ และเมื่อเอนไซม์ในหัวหอมมาช่วยเร่งปฏิกิริยากระจายมาเข้าตา ก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยากับน้ำหล่อเลี้ยงในตากลายเป็นกรดซัลฟูลิค ส่งผลให้ตาเกิดความระคายเคืองและแสบร้อน ร่างกายจึงต้องผลิตน้ำตาออกมาเพื่อชะล้างและลดอาการระคายเคือง

สำหรับวิธีหั่นหอมไม่ให้แสบตาก็มีหลายสูตร เช่น เมื่อปอกเปลือกแล้วใช้มีดจิ้มให้รอบหัว และแช่ในน้ำเปล่าสักครู่ หลังจากนั้นจึงนำมาหั่นหรือจะนำหัวหอมไปแช่เย็นประมาณ 10-15 นาที ก่อนนำมาหั่นก็จะช่วยได้ เพราะความเย็นทำให้ปฏิกิริยาต่างๆ นั้นช้าลง

ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของสสส. และวิชาการดอทคอมwww.thaihealth.or.th  

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ติดต่อเรา

Kuu Ne คูเน่  ผงปรุงรสเพื่อสุขภาพ 

บริษัท ปกธนพัฒน์ จำกัด
90/61 หมู่ 2 ถนนสุวินทวงศ์ ลำผักชี หนองจอก กรุงเทพฯ  10530
โทรศัพท์ : 02-956 6118
โทรสาร: 0 2956 6117
มือถือ :   086 791 7007  (คุณคมชาญ)
อีเมลล์ : komcharne@hotmail.com






สถานที่จำหน่ายสินค้า Kuu Ne คูเน่

Kuu Ne คูเน่  ผงปรุงรสเพื่อสุขภาพ โภชนาการคุณค่า เพื่อชีวิตที่ยืนยาว ใช้ปรุงอาหาร แกง ต้ม ผัด หมัก ทอด ยำ



ป้องกันความเสื่ยงจากโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ และสารก่อมะเร็ง
ลดการอักเสบของเซล ช่วยชะลอความแก่
หอมหัวใหญ่เป็นพืชตระกูลเดียวกับกระเทียมหรือหอมแดง แต่มีขนาดหัวที่ใหญ่กว่า มีกลิ่นฉุนอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 150 วัน หลังจากที่ปลูกแล้ว จะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้แก่เกษตรกร
ในหอมหัวใหญ่อุดมไปด้วยธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซีลีเนียม บีตาแคโรทีน กรดโฟลิก และฟลาโวนอยด์เควอเซทิน ทุกส่วนของหอมหัวใหญ่สามารถที่จะช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งสดหรือแห้ง เช่น
ใช้แก้หวัด คัดจมูก แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ท้องร่วง แก้ธาตุไม่ปรกติ ช่วยขับปัสสาวะ ลดไขมันในเส้นเลือด กระจายเลือด ใช้พอกแผลช้ำ ฝี แก้บวม แก้ปวด ใช้ทานและทาภายนอก มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค แก้ลมพิษ แก้อาการอักเสบ และทำให้เจริญอาหาร
นอกจากรักษาโรคทั่วไปเหล่านี้แล้วก็ยังรักษาโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ ขับพยาธิ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ความดันโลหิตสูง คลอเรสเตอรอลในเลือด สลายลิ่มเลือด ภูมิแพ้หอบหืดและเบาหวาน
เราจะใช้หอมหัวใหญ่ในการประกอบอาหารเพราะจะช่วยดับกลิ่นคาวไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องเทศ เป็นส่วนประกอบของขนมผิงเยลลี่ หรืออาหารพวกต้ม ยำ แกง ผัด สลัด ซุป ทอด ปิ้ง ย่างเป็นต้น เรียกได้ว่าอาหารทุกอย่างล้วนแต่มีส่วนประกอบของหอมหัวใหญ่ทั้งนั้น
ใช่ว่าหอมหัวใหญ่จะมีประโยชน์ในการประกอบอาหารแต่เพียงอย่างเดียว ยังสามารถที่จะสกัดเป็นเครื่องสำอางได้ เช่น แชมพูสระผม ยาบำรุงเส้นผม เพราะมีสารที่ช่วยในการขจัดรังแคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราต่างๆ
เมื่อรู้ถึงคุณค่าและประโยชน์ของหอมหัวใหญ่กันแล้ว หวังว่าในอาหารแต่ละมื้อคงจะมีหอมหัวใหญ่เป็นส่วนประกอบนะค่ะ หรือหากต้องการความสะดวกใช้ ขณะนี้มีนวัตกรรมใหม่ ซอสผงปรุงรส หอมหัวใหญ่ เพื่อสุขภาพ ยี่ห้อ Kuu Ne คูเน่  เป็นผลงานวิจัยดีเด่น ได้รับรางวัลชนะเลิศ Food Innovation Contest  ซึ่งผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ ผงชูรส สารเคมี วัตถุปรุงแต่ง กลิ่น สี รส สารเคมีเพิ่มปริมาณ สารป้องกันการเกาะตัว Non Anti caking & Bulking agent chemical  เพื่อสุขภาพที่ดีไม่มีโรคค่ะ 

*** แนะนำ น้องใหม่ ***








Kuu Ne คูเน่ ผงปรุงรสเพื่อสุขภาพ โภชนาการคุณค่า เพื่อชีวิตที่ยืนยาว
ใช้ปรุงอาหาร ทำน้ำซุป ข้าวต้ม แกงจืด ผัด ยำ
ผลิตจาก เห็ด 3 อย่าง มี เห็ดหอม เห็ดหลินจือ และเห็ดหูหนู
สรรพคุณ ช่วยบำรุงสมอง ผิวพรรณ สายตา ตับ ลดคลอเลสเตอรอล
ไขมันในเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัส
ล้างสลายสารพิษตกค้าง และต้านสารก่อมะเร็ง

ไม่มีผงชูรส สารเคมี สารปรุงแต่งกลิ่น สี รส และวัตถุกันเสีย
ทางเลือก ฉลาดบริโภค...... โภชนาการคุณค่า เพื่อชีวิตที่ยืนยาว

คูเน่ คู่ครัว คู่มื้อสุขภาพ คู่คุณ
หาซื้อได้ที่  Lemon Farm ทุกสาขา, ชมรมมังสวิรัติ แห่งประเทศไทย สาขาจตุจักร,รอบรอบพลังบุญ บางกะปิ ร้านทิพย์อาหารเจ ร้านสมหวังในบุญ และร้านพิมพ์บุญ, สถาบันอาหาร ม.เกษตร, เสถียรธรรมสถาน, ร้านค้าสุขภาพชีวจิต, เอเดนช๊อป, ร้านโป๊ะผัก, ร้านดีเฮลท์, ร้านค้าสวัสดิการ รพ.นพรัตน์ราชธานี,  บ้านสวนไผ่ (A.J. Health Foods) พหลโยธิน, ร้านค้าสวัสดิการกองทัพอาหาศ ดอนเมือง, สหกรณ์กมาลุลอิสลาม คู้ซ้ายหนองจอก, มัสยิดอังอิสระ คู้ขวาหนองจอก, ร้านอาหารแมรี่โรส ไทย สมุทรสาคร ถ.พระราม 2 กม. 74.5, บ้านฟ้าโปร่ง อ.เมือง จ.สกลนคร

สนใจสินค้า บริโภคเอง หรือ จัดจำหน่าย
ติดต่อ บริษัท ปกธนพัฒน์ จำกัด
 โทร. 0 2956 6118, โทรสาร 0 2956 6117,
มือถือ 086-791 7007 คมชาญ
www.ptpfoods.com
อาหาร,ผัก,ผลไม้,ผักผลไม้,หอม,หอมหัวใหญ่,รักษาโรค,พืชเศรษฐกิจ,พืช,ประกอบอาหาร,แก้หวัด,คัดจมูก,มะเร็ง

ประโยชน์ยิ่งใหญ่กับ หอมหัวใหญ่

ประโยชน์ยิ่งใหญ่กับ หอมหัวใหญ่

หอมหัวใหญ่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ มีฤทธิ์มากในการขับสารพิษทั้งที่เป็นโลหะหนักและพยาธิ

หอมหัวใหญ่ (Allium cepa) เป็นพืชในตระกูลเดียวกับกระเทียม อุดมไปด้วยธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซีลีเนียม บีตาแคโรทีน กรดโฟลิก และฟลาโวนอยด์เควอเซทิน

หอมหัวใหญ่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ลดอาการกระตุกของกล้มเนื้อ มีฤทธิ์มากในการขับสารพิษทั้งที่เป็นโลหะหนักและพยาธิ เควอเซทินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก




โคเลสเตอรอลและความดันเลือดสูง

หอมหัวใหญ่มีผลคล้ายกระเทียมในการลดโคเลสเตอรอลและความดันเลือด มีสารไซโคลอัลลิอิน ที่สามารถละลายลิ่มเลือดได้

ผลการศึกษากลุ่มคนกินมังสวิรัติในประเทศอินเดียที่กินกระเทียม 10 กรัมต่อสัปดาห์ และกินหอมหัวใหญ่ 200 กรัมต่อสัปดาห์ มีปริมาณโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์เฉลี่ย 172 และ 75 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ

ในขณะที่ค่าดังกล่าวในกลุ่มควบคุม (ไม่ได้กินกระเทียมและหอมหัวใหญ่) คือ 208 และ 109 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ

ส่วนการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัวในผู้ป่วยที่มีระดับไขมันเอชดีแอลในผู้ป่วยดังกล่าวจากร้อยละ 20 เป็น 30 มีผลลดระดับโคเลสเตอรอลในภาพรวม และเพิ่มอัตราส่วนระหว่างไขมันเอชดีแอล (ไขมันดี) ต่อไขมันแอลดีแอล (ไขมันเลว) อย่างน่าพอใจด้วย

ภูมิแพ้และหอบหืด

หอมหัวใหญ่มีความสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไลพอกซีจีเนสและไซโคลออกซีจีเนส ซึ่งสร้างสารพรอสตาแกลนดินและทรอมบอกเซนซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบ เมื่อให้หนูตะเภากินสารสกัดแอลกอฮอล์ของหอมหัวใหญ่ 1 มิลลิลิตร พบว่าสามารถลดอาการหืดหอบจากการหดลองสูดดมสารก่อภูมิแพ้ได้

หอมหัวใหญ่มีเควอเซทิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฤทธิ์เชิงเภสัชวิทยาของมัน พบว่าเควอเซทินสามารถยับยั้งการปล่อยฮิสตามีนจากมาสต์เซลล์ และยับยั้งการสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ เช่นลิวโคทรีนได้

เควอเซทินพบมากที่สุดในผิวชั้นต้นๆ ของหอมหัวใหญ่ และพบมากกว่าในหอมหัวใหญ่สีม่วงและหอมแดงแต่ฤทธิ์ป้องกันอาการหอบหืดและภูมิแพ้คาดว่ามาจากสารกลุ่มไอโซโอไซยาเนต

เบาหวาน

หอมหัวใหญ่แสดงฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผลงานการศึกษาทางการแพทย์และทางคลินิกหลายชิ้นสารออกฤทธิ์ในหอมหัวใหญ่เชื่อว่าเป็นสารอัลลิลโพรพิลไดซัลไฟด์ (Allyl propy disuldhide หรือ APDS) และ มีฟลาโวนอยด์อื่นร่วมด้วย

หลักฐานจากการทดลองและสังเกตในคลินิกพบว่า APDS ลดระดับกลูโคสโดยแข่งกับอินซูลิน (ซึ่งเป็นไดซัลไฟด์เช่นกัน) ในการเข้าสู่จุดยับยั้งการทำงานโดยอินซูลิน (Insulin-inactivating sites) ในตับ ทำให้มีอินซูลินอิสระเพิ่มขึ้น

การกินหอมหัวใหญ่ 1-7 ออนซ์ (16 ออนซ์ประมาณครึ่งกิโลกรัม) มีผลลดปริมาณน้ำตาลในเลือดผลนี้พบทั้งในหอมหัวใหญ่ทั้งดิบและที่ต้มแล้ว

หอมหัวใหญ่กับภูมิคุ้มกัน

แคลเซียมมีการเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์เอนไซม์ที่ ที-เซลล์ (T-cells) ใช้ในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมและช่วยเม็ดเลือด ขาวในการทำลายและย่อยสลายไวรัส

ปกติแคลเซียมจะได้มาจากผลิตภัณฑ์นม ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวอยู่มาก ไขมันอิ่มตัวมักมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอักเสบ (Proinflamatory) ซึ่งมีผลในเชิงลบกับระบบภูมิคุ้มกันการกินหอมหัวใหญ่จึงได้แคลเซียมโดยปราศจากไขมัน (ถ้าไม่กินเป็นหอมหัวใหญ่ชุบแป้งทอด)

หอมหัวใหญ่มีธาตุอาหารสำคัญอื่นๆ อีก ธาตุซีลีเนียม ที่พบมากในหอมใหญ่มีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างแอนติบอดี ถ้าขาดธาตุนี้ร่างกายจะขาดความสามารถในการต้านการติดเชื้อที่เกิดขึ้นซ้ำซากได้ นอกจากนี้ ซีลีเนียมยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเอนไซม์กลูตาไทโอนเพอร์ออกซิเดส เอนไซม์นี้ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระที่จะก่อให้เกิดการอักเสบในระบบต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย

หอมหัวใหญ่อุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียมซึ่งเป็นธาตุที่มักพบได้น้อยในอาหารประจำวัน มีความสำคัญในการสร้างคอมพลีเมนต์ ซึ่งมีความสำคัญในการทำลายเซลล์มะเร็งและกำจัดไวรัส ตัวอย่างของคอมพลีเมนต์ ได้แก่ อินเทอฟีรอน นอกจากนี้ หอมหัวใหญ่ยังมีธาตุแมกนีเซียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของการสร้างพรอสตาแกลนดินและการควบคุมปริมาณฮิสตามีน

นอกจากนี้ หอมหัวใหญ่มีธาตุกำมะถัน ช่วยให้เอนไซม์ตับทำงานขับสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

ตำราอาหารโยคะบำบัดจากประเทศอินเดียกล่าวไว้ว่าในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องให้กินหอมหัวใหญ่วันละ 1 หัว เพื่อป้องกันพยาธิทั้งเซลล์เดียวและหลายเซลล์ อาจเติมในโยเกิร์ต สลัด ผักนึ่ง หรือในข้าวก็ได้ และกินนมแพะสีทองเพื่อป้องกันแบคทีเรีย ไวรัส เสริมฤทธิ์ต้านอักเสบและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

สูตรนมแพะสีทอง (จาก นพ. ดามา ซิงค์ คาลซา)

ใช้นมแพะ 2 ถ้วย กระเทียมโทนครึ่งหัว ขิงหนา 1x1 นิ้วปอกเปลือกแล้วหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ผงขมิ้นครึ่งช้อนชาปาดเรียบ (ถ้าช้อนพูนจะแรงเกินไป)

ใส่ส่วนผสมทั้งหมดในหม้อต้มความดันใช้ไฟกลางเมื่อร้อนแล้วจึงปิดวาล์วให้แน่น เมื่อวาล์วเริ่มเปิดมีไอน้ำออกมาให้ต้มต่อเพียง 5 นาทีแล้วยกออกจากเตาเอมหม้อแช่น้ำเย็น 1 นาที จากนั้นเปิดวาล์วความดัน ถ้ายังมีไอน้ำออกมาให้หมดก่อนจึงเปิดหม้อ เพื่อไม่ให้การระเบิด กรองนมแพะ ดื่มอุ่นๆ วันละ 1 ครั้ง นมแพะย่อยง่าย จะเป็นตัวพาสารอาหารเข้าสู่เซลล์และอวัยวะต่างๆ

หอมหัวใหญ่เป็นพืชที่มีกลิ่นและความฉุนน้อยกว่ากระเทียม คนทั่วไปจึงควรที่จะเพิ่มปริมาณการกินได้โดยไม่ต้องฝืนใจมากนักเมื่อเทียบกับกระเทียม

จากประโยชน์อันมากมายในหอมหัวใหญ่นี้ และเพื่อสุขภาพที่ดีของเราต่อไป จึงสมควรพิจารณาหอมหัวใหญ่เป็นพืชหลักประจำโต๊ะอาหาร เนื่องจากอาหารไทยมีหอมหัวใหญ่เป็นส่วนประกอบมากชนิด เพื่อสุขภาพที่ดีของเราต่อไป

http://www.samunpri.com/modules.php?name=News&file=article&sid=83

เคล็ดลับสุขภาพ หอมหัวใหญ่มากมายประโยชน์



อาหารไทยเราใส่หอมหัวใหญ่ก็เพื่อช่วยดับกลิ่นคาว แต่ที่จริงแล้วประโยชน์ของหอมหัวใหญ่มีมากกว่าแค่กลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะหอมชนิดนี้เป็นที่รวมตัวของสารอาหารสารพัดอย่างชนิดที่หาผักอื่นทาบรัศมีได้ยาก ทั้งแมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซีลีเนียม เบตาแคโรทีน กรดโฟลิก และฟลาโวนอยด์เควอเซทิน มีสารอาหารอัดแน่นทุกอณูอย่างนี้นี่เอง หอมหัวใหญ่จึงเป็นผักที่รักษาโรคได้เยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันมะเร็งลำไส้ สลายลิ่มเลือด ลดอาการปวดอักเสบ ทำให้เจริญอาหาร แก้หวัด คัดจมูก แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องร่วง แก้ธาตุไม่ปกติ ช่วยขับปัสสาวะ ลดไขมันในเส้นเลือด กระจ่ายเลือด แก้บวม แก้ปวด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค แก้ลมพิษ ป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ ขับพยาธิ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แก้ความดันโลหิตสูง ลดโคเลสเตอรอลในเลือด แก้ภูมิแพ้หอบหืด และเบาหวาน
ต่อไปนี้อย่าลืมเติมหอมหัวใหญ่ลงไปเป็นส่วนประกอบของอาหารทุกมื้อ แค่นี้คุณและครอบครัวก็แข็งแรงกันถ้วนหน้าแล้วล่ะ .....

ที่มา : Spicy

ประโยชน์จากเครื่องเทศ หอมหัวใหญ่

# อาหารจานเด็ดหลากหลายจานมีหอมหัวใหญ่เป็นส่วนประกอบ แม้จะไม่ได้เป็นพระเอกในอาหารจานนั้นๆ แต่ก็ถือเป็นตัวประกอบที่ช่วยชูรสชาติของอาหารให้เอร็ดอร่อยมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีหลายๆ คนที่ไม่ชอบรสชาติของมันสักเท่าไหร่นัก

แต่คุณประโยชน์ของเครื่องเทศอย่างหอมหัวใหญ่นี้มองข้ามกันไม่ได้ง่ายๆ เลยทีเดียว เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินเอ ซี บี 1 ,2 มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และกำมะถัน ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณของคนกินเปล่งปลั่งสดใส ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานคล่อง ช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ทำให้นอนหลับสบาย มีสรรพคุณแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ และปรับธาตุในร่างกายให้ปกติ รวมทั้งยังช่วยต้านทานโรคหวัดได้อีกด้วย แถมธาตุฟอสฟอรัสในหอมใหญ่ จะช่วยทำให้ความจำดีขึ้นได้อีกต่างหาก

อีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรจะกินหัวหอมใหญ่ก็คือ มันจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เพราะในหอมใหญ่จะมีสาร ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ (Flavonoid glycosides) ซึ่งจะช่วยขัดขวางไขมันไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเลือด ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดอุดตัน และส่งผลให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด

สุดท้าย “108 เคล็ดกิน” ขอบอกเคล็ดลับสำหรับคนที่ปอกหัวหอมใหญ่ทีไรก็ต้องเกิดอาการเศร้าน้ำตาไหลพรากๆ นั้น ให้ลองเอาหัวหอมจุ่มลงไปในน้ำเดือด แล้วรีบเอาขึ้นแช่น้ำเย็น แล้วก็ปอกตามปกติ รับรองว่าไม่แสบตาอีกต่อไป หรือใครจะใช้วิธีที่ง่ายกว่านี้ เช่นเอาหัวหอมใหญ่นั้นให้คนอื่นปอกแทนเสียเลยก็ไม่ว่ากัน
From : Fortune Stars

เยี่ยมชม Website ข้อมูลสุขภาพ โภชนาการและสารอาหาร

http://www.yourhealthyguide.com/article/topic-nutrition.htm
หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
ข้อมูลสุขภาพ - โภชนาการ และ สารอาหาร (1)
ข้อมูลสุขภาพ
สุขภาพใจ สุขภาพจิต
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เบาหวาน
โคเลสเตอรอล
ไต
สุภาพสตรี
ผู้สูงอายุ
กระดูกและข้อ
ฟัน
โรคอ้วน
เฉพาะด้านอื่นๆ
สารอาหาร
ทั่วไป

กินดี...ต้านโรคได้
กินอย่างไร...จึงจะเลี่ยงภัยจากโรคร้าย
การเลือกอาหารอย่างชาญฉลาด
อาหาร เกี่ยวข้องกับ โรคภัยไข้เจ็บ ได้อย่างไร
กินเพื่อสุขภาพ... ดีอย่างยั่งยืน
อาหารกับอารมณ์
อาหารกำหนดชะตา
Junk Food หรือ อาหารขยะ
อาหาร...ยาวิเศษเพิ่มพลังสมอง
อาหารช่วยแก้ข้ออักเสบ
4 อาหารลดอาการตาแห้ง
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร
เบาหวาน VS ดัชนีน้ำตาลในอาหาร
สารให้ความหวานในอาหาร
หวานได้ ไม่ทำร้ายสุขภาพ
เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง น้ำตาลทราย