ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ - ปรุงรสด้วย Kuu Ne คูเน่ นวัตกรรมผงปรุงครบรสหอมหัวใหญ่ เพื่อสุขภาพ


โรคเก๊าท์และการดูแลอาหารของผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์



โรคเก๊าฑ์  โดยนพ.สุเมธ เถาหมอ

โรคเก๊าท์ เกิดจากภาวะที่กรดยูริคในเลือดมีปริมาณสูงเกินไป เกินกว่าที่จะสามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงมีการตกตะกอนสะสมอยู่ตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในที่ที่มีอากาศเย็นกว่าบริเวณอื่น  เช่น ตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ตามศอก นิ้ว ติ่งหู ตาตุ่ม หลังเท้าทำให้เกิดปุ้มก้อนเกิดขึ้น

สาเหตุสาเหตุของเก๊าท์ เกิดเนื่องจากร่างกายมีกรดยูริคสูงเกิน เป็นเวลานาน สำหรับผู้ชาย ระดับยูริคจะสูงตั้งแต่ ในช่วงวัยรุ่น แต่ผู้หญิงด้วยฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศ จะไม่สูง แต่จะสูงเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือนแล้ว ระดับยูริคที่สูงจะไม่ทำให้เกิดอาการ แต่จะสะสมตกตะกอนไปเรื่อย ๆ จนเริ่มมีอาการทางข้อเมื่อกรดยูริค ในเลือดสูงไปประมาณ 10-20 ปีแล้วยูริคในเลือดที่สูงกว่าร้อยละ 90 เกิดจากร่างกายผลิตเอง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้ป่วย โรคเก๊าท์งดอาหารใด ๆ ที่มียูริคสูงเลยและการกินอาหารที่มียูริคสูง (ที่คนทั่วไปเข้าใจกันเช่น เครื่องในสัตว์ สัตว์ปีก) ก็ไม่ได้ทำให้ เกิดโรคเก๊าท์แต่อย่างใดและเนื่องจากโรคเก๊าท์มักเป็นในผู้ป่วยที่มีอายุค่อนข้างมาก ซึ่งมักจะมีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น   เบาหวาน ความดันเลือดสูง ซึ่งจำเป็นต้องงดอาหารหวาน อาหารเค็มอยู่แล้ว การให้ผู้ป่วยเก๊าท์งดอาหารอีก จะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถกินอาหารอะไรได้เลย (ยกเว้นไปกินแกลบ กินหญ้า) เป็นการทรมานผู้ป่วยเปล่า ๆ

ที่มา :  http://www.vibhavadi.com/web/health_detail.php?id=109

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์


             สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์  คือปัจจัยทางกรรมพันธุ์และภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดกรดยูริคสูงในเลือดซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการได้รับกรดยูริคหรือสารพิวรีนเข้าไปมากหรือมีการสลายของคลีโอโปรตีนซึ่งอยู่ในนิวเคลียสของเซลล์มาก  หรือกรดยูริคที่มีอยู่ไม่สามารถถูกขับถ่ายออกมาทางไตได้ตามปกติ  ทำให้กรดยูริคคั่งอยู่ในเลือดมากเกิดภาวะยูริคสูงในเลือด

อาการของโรคเก๊าท์


            ระยะแรก  มักมีอาการปวดรุนแรงอย่างทันทีทันใดมักพบในอาการปวดที่หัวแม่เท้า  หัวเข่า  หรือข้อเท้าก่อน  อาการมักเกิดขึ้นภายหลังจากการกินอาหารที่มีแคลอรี่สูงมากๆ  การดื่มเหล้ามาก  หรือการสวมรองเท้าที่คับ  บริเวณผิวหนังตรงที่ข้อที่อักเสบตึงร้อนเป็นมัน  ผู้ป่วยมักมีไข้  หนาวสั่น  อ่อนเพลียมีเม็ดเลือดขาวสูง  อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3  วัน  และหายไปเองในระยะ  5-7  วัน
            ระยะพัก  เป็นระยะที่ไม่มีอาการแสดงแต่กรดยูริคในเลือดมักสูง  และอาการอักเสบอาจเกิดขึ้นอีกจนถึงขั้นเรื้อรังอาจมีอาการเป็นระยะเนื่องจากผลึกยูเรตเ)้นจำนวนมากสะสมอยู่ในข้อกระดูก  เยื่ออ่อนของข้อต่อ  และบริเวณเส้นเอ็นทำให้เกิดโรคกระดูกเสื่อม เมื่อเป็นมากจะมีการสะสมของผลึกนี้เยื่อบุภายในปลอกหุ้มข้อและเกิดปุ่มขึ้นที่ใต้ผิวหนังมักเริ่มที่หัวแม่เท้าและปลายหูก่อนข้อที่มีผลึกยูเรตเกาะอยู่  อาจเปลี่ยนแปลงจนผิดรูปและเกิดความพิการที่ข้อกระดูกนั้น ๆ

อาการแทรกซ้อน


            พบว่าร้อยละ  25  ของผู้ป่วยข้ออักเสบเฉียบพลันจากเก๊าท์มักมีนิ่วในไตด้วย  ผลึกยูเรตอาจจะสะสมอยู่ในส่วนกรวยไตทำให้มีอาการเลือดออกทางปัสสาวะ  ถ้ามีการสะสมในไตมาก ๆ  จะขัดขวางการทำงานของไตหรือทำลายเนื้อไตทำให้เกิดภาวะไตล้มเหลว

การควบคุมอาหาร


            เนื่องจากกรดยูริคจะได้จากการเผาผลาญสารพิวรีนดังนั้นในการรักษาโรคเก๊าท์  จึงต้องควบคุม
สารพิวรีนในอาหารด้วย  อาหารที่มีพิวรีน  อาจแบ่งเป็น  3  กลุ่ม  คือ
  •      อาหารที่มีสารพิวรีนน้อย  (0-50  มิลลิกรัม  ต่อ  อาหาร  100  กรัม)
    •        นมและผลิตภัณฑ์จากนม
    •        ไข่เป็ด,ไข่ไก่,ไข่นกกระทา
    •        ธัญญาพืชต่าง ๆ
    •        ผักต่าง ๆ
    •        ผลไม้ต่าง ๆ
    •        น้ำตาล
    •        ไขมัน
    •        ผลไม้เปลือกแข็ง (ทุกชนิด)
  •      อาหารที่มีสารพิวรีนปานกลาง  (50-150  มิลลิกรัม  ต่ออาหาร  100  กรัม)
    •        เนื้อหมู
    •        เนื้อวัว
    •        ปลากะพงแดง
    •        ปลาหมึก
    •        ปู
    •        ถั่วลิสง
    •        ใบขี้เหล็ก
    •        สะตอ
    •        ข้าวโอ๊ต
    •        ผักโขม
    •        เมล็ดถั่วลันเตา
    •        หน่อไม้
  •      อาหารที่สารพิวรีนสูง  (150  มิลลิกรัมขึ้นไป)
    •        หัวใจ  (ไก่)                                                       
    •        ไข่ปลา
    •        ตับไก่                                                
    •        มันสมองวัว
    •        กึ๋นไก่                                                
    •        หอย
    •        เซ่งจี๋  (หมู)                                                        
    •        ห่าน
    •        ตับหมู                                                               
    •        น้ำต้มกระดูก
    •        ปลาดุก                                                              
    •        ยีสต์
    •        เนื้อไก่,เป็ด                                                        
    •        ซุปก้อน
    •        กุ้งชีแฮ้                                                              
    •        น้ำซุปต่าง ๆ
    •        น้ำสกัดเนื้อ                                                        
    •        ปลาไส้ตัน
    •        ถั่วดำ                                                
    •        ปลาขนาดเล็ก
    •        ถั่วแดง                                                              
    •        เห็ด
    •        ถั่วเขียว                                                              
    •        กระถิน
    •        ถั่วเหลือง                                                            
    •        ตับอ่อน
    •        ชะอม                                                
    •        ปลาอินทรีย์
    •        กะปิ                                                  
    •        ปลาซาดีนกระป๋อง

การจัดอาหาร

  1. การจัดอาหารให้ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ที่แพทย์ให้จำกัดสารฟิวรีนอย่างเข้มงวด  ผู้จัดต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษทั้งในด้านโภชนาการและรสชาติ  ลักษณะอาหาร  เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกินอาหารได้ตามกำหนดและได้รับสารอาหารเพียงพอ
  2. ในระยะที่อาการรุนแรง  ควรงดเว้นอาหารที่มีพิวรีนมากและให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้เพียงพอ
  3. งดเว้นอาหารที่ให้พลังงานมาก  ได้แก่  ขนมหวานต่าง ๆ  อาหารที่มีไขมันมาก  เช่น  อาหารทอดและขนมหวานที่มีน้ำตาลและไขมันมาก  เช่น  อาหารทอดและขนมหวานที่มีน้ำตาลและไขมันมาก
  4. จัดอาหารที่มีใยอาหารที่มีใยอาหารมากแก่ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้น้ำหนักลดลง
  5. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  การดื่มเหล้ามีส่วนช่วยให้อาการของโรคเก๊าท์รุนแรงขึ้น

ตัวอย่างอาหารจำกัดพิวรีนอย่างเข้มงวด


 อาหารมื้อเช้า     ข้าวสวย               ไข่ต้ม
     ผัดผักบุ้ง               ส้มเขียวหวาน 
 อาหารมื้อกลางวัน      ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้วใส่ไข่  คะน้า
     ข้าวต้มน้ำวุ้น
 อาหารมื้อเย็น     ข้าวสวย                ต้มยำปลา     ผัดคะน้าหมู            ไอศกรีม
 อาหารมื้อเช้า     ข้าวต้มหมู              ไข่ลวก     ชาหรือโอวัลติน      
 อาหารมื้อกลางวัน     ข้าวสวย                ต้มยำหมู     ไข่ตุ๋น                   มันต้มขิง
 อาหารมื้อเย็น     ข้าวสวย     แกงส้มผักรวม  (ไม่ใส่กะปิ)
     ไข่เค็ม                  ผลไม้
  อาหารมื้อเช้า     ข้าวต้มปลาหมึก        ไข่ลวก     ชาหรือโอวัลติน
 อาหารมื้อกลางวัน     ข้าวผัดหมู              ทับทิมน้ำเชื่อม
  อาหารมื้อเย็น     ข้าวสวย                แกงป่าหมู (ไม่ใส่กะปิ)     ผัดเปรี้ยวหวาน          ผลไม้
  อาหารมื้อเช้า     ข้าวต้มหมู              ผัดคะน้าหมูกรอบ     หมูหยอง               ชาหรือโอวัลติน
  อาหารมื้อกลางวัน     ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า       ขนมชั้น
  อาหารมื้อเย็น     ข้าวสวย                ผัดดอกหอมปลาหมึก    
     หมูทอดอบ             ผลไม้   

ที่มา :  http://www.ekachonhospital.com/index.php/2008-05-23-08-38-26/81

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น