กระตุกต่อมคิด ยกระดับความคิด ปรุงแต่งด้วยธรรมชาติ
ควบคู่กับการมีสุขภาพที่ดี กับนวัตกรรม
Beyond the Fact ในการป้องกันต้นเหตุ คุ้มค่ากว่าการรักษาเยียวยา
ในโลกปัจจุบัน ด้วยความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์
กอร์ปกับค่าเฉลี่ยคนสูงอายุทั่วโลกมีจำนวนมากขึ้น
โดยเฉพาะคนไทย พ.ศ. 2556 มีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 13 และอีกไม่ถึง 10
ปีข้างหน้านี้จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 ของจำนวนประชากร ซึ่งแนวโน้มนี้เป็นที่มาของเรื่องสุขภาพ
อาหารการกิน ของผู้สูงอายุ เช่น ต้องเคี้ยวง่าย ย่อยง่าย สะดวกใช้
มีประโยชน์ช่วยบำรุง หรือ ส่งเสริมให้เกิดสมรรถนะ รวมถึงสุขภาพทางร่างกายที่ดีด้วย
จากอาหารเดิมๆที่เคยชินและบริโภคอยู่ทุกวันนี้ยังไม่มีทางเลือกด้านโภชนาการมากนัก
กล่าวคือ ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตส่วนใหญ่เน้นผลิตเป็นอุตสาหกรรมตอบสนองผู้บริโภคจำนวนมาก
เน้นต้นทุนต่ำ โดยใช้สารเคมีในการปรุงแต่งกลิ่น สี รส สารเคมีป้องกันการเกาะตัว
รวมถึงแอบแฝงแต่งเติม ผงชูรส ในรูปอื่นๆของเครื่องปรุงรสในปัจจุบัน ก่อให้เกิดสารเคมีสะสมในร่างกายซึ่งทำให้อวัยวะภายในทำงานด้อยลง
ส่งผลเสียต่อร่างกายทำให้เกิดภาวะความเสี่ยงต่อโรคสูง ตั้งแต่ โรคอ้วน ความดัน
เบาหวาน หัวใจ ระบบย่อยอาหาร รวมถึงสารก่อมะเร็ง ทำให้สุขภาวะทั่วไปของคนตกอยู่ในสภาพ
ป่วย เจ็บ เคลื่อนไหวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องเข้าออกหรือนอนในโรงพยาบาลเป็นประจำ
และแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นภาระแก่บุตรหลาน ผู้ดูแลเลี้ยงดูไม่มีความสุข เรามีชีวิตอยู่รอดมาได้
เพื่อรอวันผ่าตัดเยียวยารักษาเท่านั้นหรือ?
จากงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงสาธารณสุข ปี
2553 – 2556
เกี่ยวกับการบุคลากรทางการแพทย์ การส่งเสริมป้องกันโรค
อุปกรณ์การแพทย์ การรักษาพยาบาล ค่าเวชภัณฑ์ยา และอื่นๆ ตามลำดับมี จำนวน 71.6 , 86.9,
91.9 และ 99.7 หมื่นล้านบาทต่อปี ประมาณการปี 2557 ที่ 106.4 หมื่นล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.3, 28.4 และ 39.3 โดยประมาณการปี 2557 ที่ 48.6
จะเห็นได้ว่างบประมาณรายจ่ายภาครัฐด้านกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทุกปีโดยเฉลี่ยที่ร้อยละ
35 แสดงถึงเรื่องการกินอยู่ของประชากรยังไม่ดีพอ
ขาดการเอาใจใส่ เคยชินกับการใช้ชีวิตเดิมๆ ซื้ออาหารถุง กินอาหารตามสั่ง คนไทยกินอาหารนอกบ้าน
คิดเป็นร้อยละ 65 – 75 ต่อวัน หรือเฉลี่ยวันละ 2 มื้อ ซื้อสินค้าบริโภคที่มีส่วนผสมของสารเคมีจำนวนมาก
สะสมในร่ายกายและอวัยวะภายในมีปัญหาด้านสุขภาพ ต้องเจ็บป่วยรักษาเยี่ยวยาซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว น่าแปลกมั๊ย เราทำงานหนักมาตลอดด้วยคาดหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้า
โดยละเลยไม่ได้ใส่ใจสุขภาพของตนเอง
สุดท้ายเงินก้อนสุดท้ายก็ต้องมาใช้กับการรักษาอาการเจ็บป่วยกับสุขภาพแย่ๆจนถึงวาระสุดท้าย
หันมาเน้นป้องกันดีกว่าเยียวยารักษา พอรึยังกับเคมีในอาหารทุกคำที่กิน?
ถึงเวลาหรือยังที่ผู้บริโภคจะ ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดเลือก ฉุกคิด
ความเสี่ยงของอาหารที่แฝงมาด้วยสารเคมี สิ่งปลอมปน ในรูปแบบต่างๆ
รวมถึงสื่อกระแสโฆษณา ลด แจก แถม ชิงรางวัล สิ่งล่อใจ กับรสชาติที่อร่อยถูกปาก
น่ากิน สารแต่งเติมสีสรรและรสชาด
กับคุณภาพชีวิตที่แย่ลงซึ่งยากที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติ คุ้มค่าหรือไม่กับ คุณค่าที่แท้จริงของอาหารนั้น Kuu Ne คูเน่ คือเลือกใหม่ ไม่ได้อร่อยเลิศแบบใช้สารเคมีปรุงแต่ง
หากแต่อร่อยล้ำย้ำคุณค่า ด้วยธรรมชาติ แบบว่า “อร่อยอริยะ” ด้วยนวัตกรรม Kuu
Ne คูเน่ ผงปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ 2 in 1 ผลิตจากธรรมชาติ
100% ไม่มีเนื้อสัตว์ ปลอดสารเคมี โซเดียมต่ำ
โดยใช้หอมหัวใหญ่เป็นวัตถุดิบหลัก ใช้แทนผงชูรสและน้ำสต๊อก (น้ำซุป) สำหรับทำแกง ต้ม ผัด หมัก ทอด ยำ
หรือใช้ชงดื่มเป็นน้ำซุปเพื่อสุขภาพ เพียงปลายช้อนชาต่อน้ำสุกอุ่น 1 แก้ว
ดื่มได้ตลอดวัน ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตร ได้รับรางวัลชนะเลิศ
พบว่าหอมหัวใหญ่เป็นทั้งอาหารและยาอายุวัฒนะ ซึ่งช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน
ความดัน เบาหวาน หัวใจ ต้านสารก่อมะเร็ง ลดการอักเสบของเซล
อีกทั้งมีกากใยอาหารสูงช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ Kuu Ne คูเน่ ผ่านการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์อาหาร
จากสถาบันอาหาร ด้วยมาตรฐาน GMP ได้รับการเครื่องหมายรับรอง
อย. และ ฮาลาล ด้วยคุณประโยชน์ต่างๆนี้ Kuu Ne คูเน่ มีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดี
และยังช่วยลดงบประมาณรายจ่ายด้านการสาธารณสุขของประเทศ ถึงเวลาแล้วที่ร้านค้า ร้านอาหาร
ผู้ประกอบการภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม หันมาใส่ใจผู้บริโภคอย่างจริงจัง ด้วยแนวคิด ลูกค้าคุณ ลูกค้าเรา สร้างคุณค่าร่วมกัน ไปด้วยกันกับ Kuu
Ne คูเน่ ... คู่ครัว คู่มื้อสุขภาพ คู่คุณ www.facebook.com/kuunepage
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น