ค้นหาบล็อกนี้

Translate

คุ้มค่าด้วยคุณค่า เติมสุขเสริมสุขภาพ ใช้ปรุงอาหาร หรือชงดื่มเพื่อสุขภาพ หอมชงปานะ

นวัตกรรมเครื่องปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ ผลงานวิจัยดีเด่น ม.เกษตรฯ ผลิตจากหอมหัวใหญ่ เข้มข้น 3 เท่า ช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอความชรา อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ (อนุภาคหอมหัวใหญ่จะเกาะตัวกันตามธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีป้องกันการเกาะตัว)

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อาหารชะลอแก่...

โดย : First Magazine ถ้ามีใครสักคนเดินปรี่เข้ามาทักเราว่า ดูสาวขึ้นหรือหนุ่มขึ้น คุณเอ๊ย! รับรองได้ว่าวันนั้นนั่งปลื้มไปทั้งวัน ...
การชะลอวัยนั้นไม่ได้เกินความสามารถที่คนเราจะควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นหรือโรคที่มากับวัย เช่น โรคความจำเสื่อม โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคกระดูกพรุน ซึ่งคนเรามักจะคิดว่าเป็นผลพวงที่เกิดจากความแก่ แต่ความจริงที่ถูกมองข้ามก็คือ โรคเหล่านี้เป็นผลจากวิถีการดำเนินชีวิตที่ผิด มากกว่าจะมาจากความแก่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ฉะนั้น การหวนกลับมาจัดการกับวิถีชีวิต จึงเป็นหนทางชะลอความชราที่ดีที่สุด

จงใช้อาหารเป็นยา

อาหารที่เราเลือกบริโภคในชีวิตประจำวัน มีความสำคัญเท่าๆ กับการออกกำลังกาย ครีมกันแดดที่เราเลือกเพื่อป้องกันความเสื่อมของผิว และวิธีการป้องกันอื่นๆ ที่จะช่วยชะลอวัย ผัก ผลไม้ เป็นยาต้านความแก่ที่วิเศษที่สุด ผู้ที่รับประทานผักผลไม้มากๆ นอกจากจะแก่ช้าแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็ง ได้น้อยกว่าผู้ที่กินแต่เนื้อสัตว์และไขมันมาก ซึ่งนักวิจัยยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง

ในผักผลไม้มีอะไรดีอย่างนั้นหรือ

• ผักผลไม้ส่วนใหญ่ ยกเว้นมะพร้าว มะกอก และผลอะโวคาโด ไม่มีไขมัน ไม่มีคอเลสเตอรอล และมีโซเดียม (เกลือ) น้อย ยกเว้นของหมักดอง โซเดียมเป็นองค์ประกอบของเกลือ ถ้าบริโภคมากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงและโรคมะเร็ง

• ผักผลไม้มีกากใยอาหารสูง ช่วยลดความเสี่ยงโรคที่มากับวัย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีพลังงานต่ำ ทำให้อิ่มง่าย จึงลดปริมาณอาหารที่จะกินให้น้อยลง ร่างกายคนเราต้องการกากใยอาหารในการช่วยรักษาสุขภาพวันละ 25-30 กรัม ซึ่งทำได้ไม่ยาก ถ้าคุณเลือกบริโภคผักผลไม้วันละ 3-4 อย่าง อย่างละขนาดเท่าลูกเทนนิส และบริโภคผักสดขนาดเท่ากับ 4 ถ้วย (ข้าวต้ม) หรือผักสุก 4 ทัพพี หรือจะผสมกันอย่างละครึ่งก็ยิ่งดี

• ผักผลไม้มีสารอาหารมากมายที่ช่วยชะลอความแก่ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีนหรือแคโรทีนอยด์ อนุมูลอิสระเป็นสารที่เร่งความเสื่อมของวัย สารอาหารดังกล่าวจะช่วยลดฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ

• ผักผลไม้อุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม กรดโฟลิก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แคลเซียมและแมกนีเซียมช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ธาตุเหล็กและกรดโฟลิกช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโลหิตจาง นอกจากนี้ กรดโฟลิกยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและป้องกันโรคสมองเสื่อม

• ผักและผลไม้ให้พลังงานต่ำ โดยเฉพาะผัก ผักสลัดหนึ่งชามพูนให้พลังงานเพียง 30 กิโลแคลอรี่ แต่ต้องระวังน้ำสลัดซึ่งให้พลังงานสูง เพราะน้ำสลัดข้นแค่เพียง 1 ช้อนโต๊ะ ก็ให้พลังงานถึง 75-100 กิโลแคลอรี่เข้าไปแล้ว

• ผักผลไม้มีสารต้านมะเร็งเฉพาะตัวที่เรียกว่า สารพฤกษเคมี (Phytochemical) ผักผลไม้ต่างชนิดกันก็มีสารพฤกษเคมีแตกต่างกันไปหลายพันชนิด การบริโภคผักและผลไม้ให้หลากหลายจะช่วยให้ได้สารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อ สุขภาพ

หลีกเลี่ยงอาหารเร่งแก่!

มีอาหารหลายอย่างที่เราๆ ท่านๆ โปรดปราน โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำให้แก่เร็วขึ้น อาหารดังกล่าวประกอบไปด้วย

1. อาหารไขมันสูง

โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว (ไขมันจากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์ ช็อกโกแลต กะทิ) การบริโภคอาหารทอดกรอบ อาหารผัดที่มันมาก และน้ำมันพืชซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (polyunsaturated fatty acid) ในปริมาณมากๆ มีผลในการเพิ่มอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอร์สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้ และยังลดการดูดซึมของเกลือแร่และวิตามินในร่างกาย โดยเฉพาะแคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้แอลกอฮอร์ยังก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เร่งความแก่ให้มาเยือนก่อนเวลาอันควร

3. เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

ได้แก่ ชา กาแฟ ซึ่งจะลดการดูดซึมวิตามินบีและแคลเซียมในร่างกาย

4. อาหารหมักดองและอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ

เช่น สารตะกั่วและเชื้อแบคทีเรียในอาหารที่ขายตามริมถนนและไม่มีภาชนะปิด เป็นบ่อเกิดของอนุมูลอิสระ บั่นทอนสุขภาพและก่อให้เกิดโรคมะเร็ง อาหารปิ้งย่างที่มีเขม่าไฟติดหรือเกรียมไหม้ มีสารก่อให้เกิดมะเร็งที่มีชื่อว่า เบนโซไพรีน (benzopyrene)

5. อาหารทอดด้วยน้ำมันซ้ำซาก

เช่น ปาท่องโก๋ ปลาทอด ทอดมัน ไก่ทอด เป็นต้น น้ำมันที่ทอดอาหารซ้ำแล้วซ้ำอีกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและสารก่อมะเร็ง

สรุปวิธีการกินให้อ่อนวัยนั้นไม่ยาก ถ้าปฏิบัติดังนี้

• จำกัดอาหารประเภทไขมันและน้ำตาล

• บริโภคข้าวซ้อมมือเป็นประจำ

• เลือกผลิตภัณฑ์ข้าวที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยสุด

• บริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา และดื่มนมขาดไขมันหรือนมพร่องไขมันเป็นประจำ

• ระวังปริมาณในการบริโภค อย่าเพลินกับความอร่อยจนลืมตัว

• เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

• เสริมวิตามินรวมวันละ 1 เม็ด และวิตามินอีวันละ 100-400 ไอยู

นอกจากเรื่องการกินแล้ว สิ่งสำคัญควบคู่กันไปก็คือ ไม่ลืมที่จะออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส ลดละความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ คุณก็จะดูอ่อนกว่าวัยได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น