แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติว่าด้วยการเสริมสร้างสุขภาวะ ในระยะท้ายของชีวิต พ.ศ. 2557 -2559
ระบบบริการสุขภาพและวิทยาการก้าวหน้า ทำให้คนไทยมีอายุยืนขึ้นในปัจจุบัน แต่ขณะเดียวกันเทคโนโลยีมีราคาแพงขึ้น มีการมุ่งยื้อความตายที่ไม่ใช่ยื้อชีวิต และเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบภายใน 20 ปีข้างหน้า ระบบการดูแลแบบประคับประคองในระยะท้ายของชีวิตมีความจำเป็นเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตรวมทั้งการตายดี แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยมีสุขภาวะในระยะท้ายของชีวิตและตายดีแผนยุทธศาสตร์ที่ 1 คือการสร้างเสริมความรู้ ทัศนคติที่ดีต่อการมีสุขภาวะในระยะท้ายของชีวิตและตายดี และการดูแลแบบประคับประคอง
แผนนี้มุ่งสร้างและจัดการความรู้เพื่อสนับสนุนการพัฒนารูปแบบและระบบการดูแลแบบประคับ ประคองที่เป็นองค์รวม ตลอดจนการจัดการความรู้ในเรื่องธรรมชาติของชีวิต โดยผู้เกี่ยวข้องจะต้องมีทั้งความรู้ทางศาสตร์และศิลป์ในการดูแลผู้ป่วยกับญาติ โดยการพัฒนาระบบการศึกษา การวิจัยและพัฒนา การสร้างระบบการจัดการความรู้ การจัดการคลังความรู้ และการสร้างระบบการเรียนรู้ การถ่ายทอดประสบการณ์และการแบ่งปันและกระจายความรู้
กลยุทธ์สำคัญประการหนึ่งคือการสนับสนุนให้พระภิกษุสงฆ์,ผู้นำทางศาสนาและองค์กรทางศาสนา เครือข่ายภาคประชาชนและจิตอาสาเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและพัฒนาศักยภาพของคนไข้และครอบครัวให้มีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยระยะท้าย
แผนยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาและจัดระบบบริการดูแลแบบประคับประคองในระยะท้ายของชีวิตที่ได้มาตรฐานครอบคลุมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะในระยะท้ายของชีวิตและรองรับการตายดี
แผนนี้มุ่งเน้นระบบบริการสุขภาพแบบผสมผสานเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อทั้งระบบสุขภาพชุมชนและระหว่างสถานบริการสาธารณสุขด้วยกันเพื่อให้เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาวะในระยะท้ายของชีวิตรวมทั้งการตายดี โดยอาจกำหนดไว้ในแผนพัฒนาระบบบริการ
กลยุทธ์หนึ่งก็คือการใช้การแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกมาร่วมให้บริการ ตลอดจนการพัฒนามาตรฐานกับระบบการรับรองคุณภาพของสถานพยาบาล สถานพยาบาลกึ่งบ้าน การดูแลที่บ้านและในชุมชน
แผนยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนการจัดบริการ โดยมุ่งพัฒนาระบบย่อยต่างๆทุกระบบ รวมทั้งพัฒนากำลังคนด้านคุณภาพมารองรับระบบการดูแลแบบประคับประคอง กลยุทธ์สำคัญจึงอยู่ที่การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อมาดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง
แนวทางการขับเคลื่อนแผนนี้ก็ต้องอาศัยความเห็นชอบของ ครม.เพื่อให้สามารถใช้เป็นกรอบอ้างอิงในการดำเนินการ การของบประมาณในการสนับสนุนและการนำไปใช้
ด้วยความปรารถนาดีจาก
พลตำรวจตรีนายแพทย์ชุมศักดิ์ พฤกษาพงษ์
อนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น